แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยบุกรุกเข้าไปในที่ดินโจทก์ ขอให้ขับไล่ การที่จำเลยให้การต่อสู้คดีว่าที่พิพาทไม่ใช่ของโจทก์ แต่เป็นของจำเลยหากข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์มีสิทธิครอบครองจำเลยก็ได้แย่งการครอบครองจากโจทก์มาแล้วกว่า1 ปี และโจทก์มิได้ฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองภายใน 1 ปี นับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครอง นั้น คดีคงมีประเด็นข้อพิพาทเพียงว่าโจทก์หรือจำเลยมีสิทธิครอบครองในที่พิพาท กรณีไม่มีประเด็นในเรื่องการแย่งการครอบครองที่ดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375เพราะการแย่งการครอบครองจะเกิดขึ้นได้ก็แต่ในที่ดินของผู้อื่นเท่านั้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มีสิทธิครอบครองที่ดินมือเปล่าหนึ่งแปลงเนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ โดยได้ครอบครองทำประโยชน์มาแล้วไม่น้อยกว่า10 ปี เมื่อเดือนเมษายน 2531 จำเลยบุกรุกเข้าไปในที่ดินของโจทก์ประมาณ 5 ไร่ โดยการปลูกต้นมะพร้าวและกั้นรั้วลวดหนาม ขอให้ขับไล่พร้อมกับรื้อถอนรั้วลวดหนามและชดใช้ค่าเสียหายเดือนละ 7,500 บาทนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป
จำเลยให้การว่า ที่พิพาทไม่ใช่ของโจทก์แต่เป็นของจำเลยจำเลยใช้สิทธิครอบครองตั้งแต่ปี 2526 จนถึงปัจจุบัน โจทก์พบเห็นการกระทำของจำเลยมาหลายปีแล้วโดยไม่ได้โต้แย้ง จนกระทั่งปลายปี 2530โจทก์เพิ่งจะห้ามจำเลย แต่จำเลยไม่ปฏิบัติตามเพราะถือว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย อย่างไรก็ตามหากข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองที่พิพาท จำเลยก็ได้แย่งการครอบครองจากโจทก์เกิน 1 ปีแล้วโจทก์จึงหมดสิทธิที่จะฟ้องเรียกคืนการครอบครอง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินโจทก์และให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายเดือนละ 1,000 บาท นับแต่วันฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่า ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทไม่ถูกต้องกล่าวคือ ไม่กำหนดประเด็นข้อพิพาทเพิ่มเติมว่าโจทก์มีสิทธิฟ้องเรียกคืนซึ่งสิทธิครอบครองที่พิพาทหรือไม่ นั้นเห็นว่า จำเลยให้การต่อสู้คดีว่า ที่พิพาทไม่ใช่ของโจทก์แต่เป็นของจำเลย หากข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์มีสิทธิครอบครอง จำเลยก็ได้แย่งการครอบครองจากโจทก์แล้วมากกว่า 1 ปี และโจทก์มิได้ฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองภายใน 1 ปี นับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครอง ดังนั้นตามคำให้การของจำเลยคงมีประเด็นข้อพิพาทเพียงว่า โจทก์หรือจำเลยมีสิทธิครอบครองในที่พิพาท ไม่อาจมีประเด็นในเรื่องการแย่งการครอบครองที่ดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 เพราะการแย่งการครอบครองจะเกิดขึ้นได้ก็แต่ในที่ดินของผู้อื่นเท่านั้นแล้วศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า จำเลยไม่มีสิทธิครอบครองในที่พิพาท
พิพากษายืน