คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 932/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์นำรถยนต์ไปจอดในบริเวณปั๊มน้ำมันของจำเลย และได้มอบกุญแจรถยนต์ไว้ให้ลูกจ้างของจำเลย ลูกจ้างของจำเลยนำรถยนต์ของโจทก์เข้าไปเก็บในที่เคยเก็บรถยนต์ และโจทก์จ่ายค่ารับฝากให้จำเลยเมื่อมาเอารถคืนโดยได้ปฏิบัติเช่นนี้เป็นเวลานาน ถือว่าจำเลยได้ตกลงรับฝากรถยนต์ของโจทก์ไว้ในอารักขาของตน ตลอดเวลาที่รถยนต์ของโจทก์อยู่ที่ปั๊มน้ำมันของจำเลยอำนาจการครอบครองรถยนต์นั้นตกอยู่กับจำเลยที่จะจัดการเกี่ยวกับรถยนต์นั้นจนกว่าโจทก์จะมารับรถยนต์คืนไปจึงเป็นสัญญาฝากทรัพย์โดยมีบำเหน็จ
เงื่อนไขตามใบเสร็จรับเงินและประกาศที่จำเลยที่ 4 ทำขึ้นเพื่อยกเว้นความรับผิดนั้น เมื่อโจทก์มิได้ตกลงยินยอมหรือลงชื่อรับรู้ด้วย เงื่อนไขดังกล่าวจึงไม่ผูกพันโจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและขอให้เรียกบริษัทสยามกลการ จำกัด เข้ามาเป็นโจทก์ร่วมโดยฟ้องว่าโจทก์เช่าซื้อรถยนต์เก๋ง 1 คันจากโจทก์ร่วมยังชำระค่าเช่าซื้อไม่หมด วันเกิดเหตุโจทก์มอบรถยนต์ดังกล่าวให้คนของโจทก์นำไปฝากที่ปั๊มน้ำมันของจำเลยที่ 4 และมอบกุญแจรถให้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 3 ผู้จัดการของจำเลยที่ 4โดยเสียค่าฝากวันละ 5 บาท ชำระค่าฝากในวันรุ่งขึ้น จำเลยที่ 1 และที่ 2 ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 3 และที่ 4 มีหน้าที่ดูแลรักษารถยนต์ ได้กระทำโดยประมาทไม่เอากุญแจรถยนต์ออกจากรถ ไม่ล็อครถและไม่เฝ้ารถ เป็นเหตุให้รถยนต์ของโจทก์ถูกลักไป ขอให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันหรือแทนกันคืนรถยนต์ในสภาพเรียบร้อยพร้อมค่าเสียหาย25,000 บาทให้โจทก์ หากคืนรถยนต์ไม่ได้ให้ใช้ราคารถยนต์ 66,000บาท กับค่าเสียหายรวม 91,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย และให้จำเลยชำระค่าจ้างรถวันละ 150 บาทจนกว่าจะคืนหรือชำระราคารถยนต์ให้โจทก์

จำเลยทั้งสี่ให้การร่วมกันต่อสู้คดีหลายประการ และว่าจำเลยที่ 4 ให้จอดรถโดยคิดค่าบริการ เป็นการให้เช่าที่สำหรับจอดรถโดยไม่มีหน้าที่รับผิดชอบในความสูญหายของรถที่มาจอด ปรากฏตามสำเนาเงื่อนไขท้ายคำให้การ หากไม่ตกลงตามเงื่อนไขจำเลยก็ไม่ยอมให้นำรถเข้ามาจอด โจทก์ทราบเงื่อนไขนี้ดี

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 4 คืนรถยนต์ให้โจทก์ในสภาพเรียบร้อย หากคืนไม่ได้ ให้ใช้เงิน 66,000 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเงินเสร็จให้โจทก์ ให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 1, 2 และ 3

โจทก์และจำเลยที่ 4 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 4 ฎีกา

ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงได้ความว่า เมื่อคนของโจทก์นำรถยนต์ไปฝากที่ปั๊มน้ำมันของจำเลยและได้มอบกุญแจรถยนต์ไว้ให้คนของจำเลยนำรถยนต์เข้าไปเก็บไว้ในที่เคยเก็บรถยนต์ และได้ปฏิบัติกันเช่นนี้เป็นเวลานาน การกระทำดังกล่าวฟังได้ว่า จำเลยได้ตกลงรับฝากรถยนต์ของโจทก์ไว้ในอารักขาของตนแล้ว ตลอดเวลาที่รถยนต์ของโจทก์อยู่ที่ปั๊มน้ำมันของจำเลย อำนาจการครอบครองรถยนต์ของโจทก์ตกอยู่กับจำเลยที่จะจัดการเกี่ยวกับรถยนต์นั้นได้ทุกเมื่อจนกว่าโจทก์จะมารับรถยนต์คืนไป และเป็นสัญญารับฝากรถยนต์ที่จำเลยได้รับผลประโยชน์เป็นเงินตอบแทน จึงเป็นสัญญาฝากทรัพย์โดยมีบำเหน็จหาใช่เป็นสัญญาเช่าที่จอดรถไม่

ส่วนที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยได้ระบุเงื่อนไขให้โจทก์ทราบตามใบเสร็จรับเงิน และมีประกาศไว้ที่ปั๊มน้ำมันของจำเลยแล้วว่าเป็นการให้เช่าที่สำหรับจอดรถโดยจำเลยไม่มีหน้าที่รับผิดชอบในความสูญหายของรถ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดนั้นเห็นว่าเงื่อนไขตามใบเสร็จรับเงินเป็นเงื่อนไขที่จำเลยทำขึ้นเพื่อให้พ้นความรับผิดแต่ฝ่ายเดียว คดีฟังไม่ได้ว่าโจทก์ตกลงยินยอมหรือลงชื่อรับรู้ในเงื่อนไขหลังใบเสร็จรับเงินนี้ด้วย ทั้งเป็นเงื่อนไขที่แจ้งให้โจทก์ทราบเมื่อได้รับชำระเงินค่าฝากรถแล้วจึงไม่ผูกพันโจทก์

พิพากษายืน

Share