คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9301/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยมิได้กระทำความผิด แต่เข้ามายอมรับว่าเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนผู้ตายแทนผู้อื่น เพื่อประโยชน์ที่บิดามารดาผู้ตายจะได้รับค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัยดังที่พนักงานคุมประพฤติรายงานก็ตาม แต่ศาลชั้นต้นมิได้ไต่สวนให้ฟังได้ว่าข้อเท็จจริงเป็นดังที่พนักงานคุมประพฤติรายงาน และแม้จำเลยกระทำการดังกล่าวจริง การกระทำของจำเลยก็เป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลชั้นต้น อันถือว่ากระทำผิดฐานละเมิดอำนาจ ศาลชั้นต้นเท่านั้น แม้ต่อมาเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตามฟ้องแล้ว จำเลยได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษ ก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลย ประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลอุทธรณ์ที่ศาลอุทธรณ์จะลงโทษจำเลยฐานละเมิดอำนาจศาลได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๑, ๙๐ พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔๓, ๑๕๗
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๑ พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔๓ (ที่ถูก ๔๓ (๔)), ๑๕๗ การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๑ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๐ จำคุก ๒ ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๑ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๙ พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ แต่จำเลยมีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๓๑ (๑), ๓๓ ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕ จำคุก ๖ เดือน คำให้การของจำเลยต่อพนักงานคุมประพฤติเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๔ เดือน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยในชั้นนี้ว่า การที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๙ ลงโทษจำเลยฐานละเมิดอำนาจศาลเป็นการชอบหรือไม่ เห็นว่า แม้จะได้ความตามรายงานการสืบเสาะและพินิจของพนักงาน คุมประพฤติที่จำเลยมิได้คัดค้านในชั้นพิจารณาว่า จำเลยมิได้เป็นผู้กระทำความผิดคดีนี้ แต่จำเลยเข้ามายอมรับว่าเป็น ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนผู้ตายแทนผู้อื่น เพื่อประโยชน์ที่บิดามารดาของผู้ตายจะได้รับค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัยผู้รับประกันภัยในรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุไว้ก็ตาม แต่ศาลชั้นต้นมิได้ไต่สวนให้ฟังได้ว่าข้อเท็จจริง เป็นดังที่พนักงานคุมประพฤติรายงาน และแม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้ว่า จำเลยกระทำการดังกล่าวจริง การกระทำของจำเลย ดังกล่าวก็เป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลชั้นต้น อันถือว่ากระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาลชั้นต้นเท่านั้น แม้ต่อมาเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตามฟ้องแล้ว จำเลยจะได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ภาค ๙ ขอให้ลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษ ก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยประพฤติตน ไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลอุทธรณ์ภาค ๙ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๙ ชอบจะลงโทษจำเลยฐานละเมิดอำนาจศาลได้ การที่ ศาลอุทธรณ์ภาค ๙ ลงโทษจำเลยฐานละเมิดอำนาจศาลจึงไม่ชอบ ฎีกาของจำเลยฟังขึ้นและไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหา ตามฎีกาของจำเลยในข้อหาอื่นต่อไป
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๙ ในส่วนที่ให้ลงโทษจำเลยฐานละเมิดอำนาจศาล นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๙.

Share