แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 2 ปี มิได้กล่าวว่าให้นับโทษจำคุกตั้งแต่วันใด จำเลยจะฎีกาว่าศาลไม่นับระยะเวลาที่จำเลยถูกควบคุมตัวตามประกาศคณะปฏิวัติหาได้ไม่ เพราะการเริ่มนับวันจำคุกวันใด ต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 22 บัญญัติไว้ ซึ่งศาลจะสั่งในชั้นบังคับคดี เมื่อจำเลยมิได้ฎีกาขอให้ศาลสั่งนับโทษเป็นอย่างอื่นนอกจากที่กฎหมายบัญญัติไว้ ดังนี้ จึงถือว่าฎีกาของจำเลยมิใช่ฎีกาคัดค้านคำพิพากษา แต่เป็นการฎีกาในการบังคับคดีจำเลยจะฎีกาล่วงหน้ามาก่อนหาได้ไม่.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยพยายามข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุ ๖ ปี ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจได้จับตัวจำเลยมาสอบสวน จำเลยได้ถูกควบคุมตัวในฐานเป็นบุคคลอันธพาลตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๒๑ มีกำหนด ๓๐ วัน แล้วถูกศาลสั่งขังระหว่างสอบสวน ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๗๗,๒๗๙,๘๐,๙๑
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลอาญาพิจารณาแล้วพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา ๒๗๙ ให้จำคุกจำเลยมีกำหนด ๒ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาปัญหาข้อกฎหมายว่าศาลไม่นับระยะเวลาที่จำเลยถูกควบคุมตัวตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๒๑ ให้จำเลย ไม่ชอบ จำเลยได้อุทธรณ์ไว้แล้ว แต่ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยให้
ศาลวินิจฉัยว่า ตามที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด ๒ ปีในคำพิพากษามิได้กล่าวว่า ให้นับโทษจำคุกจำเลยตั้งแต่วันใด ฉะนั้น การเริ่มนับวันจำคุกตั้งแต่วันใดจึงต้อง เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ คือ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๒ ซึ่งเป็นกรณีที่ศาลจะสั่งขั้นบังคับคดี จำเลยมิได้ฎีกาขอให้ศาลสั่งนับโทษจำเลยเป็นอย่างอื่นนอกไปจากที่กฎหมายบัญญัติไว้ ฉะนั้น ฎีกาของจำเลยจึงมิใช่เป็นฎีกาคัดค้านคำพิพากษา แต่เป็นการฎีกาในการบังคับคดี จำเลยจะฎีกาได้ต่อเมื่อศาลชั้นต้นสั่งบังคับคดีไม่ถูกต้อง จำเลยจะฎีกาล่วงหน้ามาก่อนไม่ได้ พิพากษายกฎีกาจำเลย.