คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9285/2556

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อจำเลยสำคัญผิดว่าผู้เสียหายพ้นวัยผู้เยาว์ โดยเข้าใจว่าผู้เสียหายมีอายุเกินกว่า 18 ปี แล้ว จึงเป็นการสำคัญผิดในข้อเท็จจริงเรื่องอายุอันเป็นองค์ประกอบความผิดตาม ป.อ. มาตรา 318 วรรคแรก การกระทำของจำเลยจึงขาดเจตนากระทำความผิดฐานดังกล่าวตาม ป.อ. มาตรา 59 วรรคสาม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276, 318, 91
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคแรก, 318 วรรคสาม การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร จำคุก 6 ปี ฐานข่มขืนกระทำชำเราจำคุก 8 ปี รวม 2 กระทง จำคุก 14 ปี คำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 9 ปี 4 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นที่คู่ความทั้งสองฝ่ายไม่โต้เถียงกันในชั้นฎีการับฟังได้ว่า นางสาวหนึ่งฤทัย ผู้เสียหาย เป็นบุตรของนายโพธิวิชัยและนางผ่องศรี บิดามารดาผู้เสียหายพักอาศัยอยู่ที่จังหวัดศรีสะเกษ ขณะเกิดเหตุผู้เสียหายมาช่วยนายจรูญและนางกิ้ม ซึ่งเป็นน้าและป้าขายของชำที่จังหวัดภูเก็ต นอกจากนางกิ้มจะเปิดร้านขายของชำแล้วยังเปิดร้านคาราโอเกะอยู่ติดกับร้านขายของชำ เมื่อลูกค้าเข้ามาในร้านคาราโอเกะ ผู้เสียหายจะเข้าไปช่วยเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มด้วย ในวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง หลังจากจำเลยกับพวกได้เข้ามาดื่มเบียร์ที่ร้านคาราโอเกะของป้าผู้เสียหาย โดยมีผู้เสียหายและนางสาวนุสราเป็นผู้เสิร์ฟเบียร์ให้และได้นั่งร่วมโต๊ะพูดคุยกับจำเลยแล้ว จำเลยได้พานางสาวนุสราและผู้เสียหายไปรับประทานข้าวต้มแถวหาดป่าตอง ต่อมาจำเลยได้พานางสาวนุสราและผู้เสียหายไปที่ห้องพักของจำเลย ซึ่งอยู่ภายในโรงแรมภูเก็ตเมอริเดียนที่เกิดเหตุ ระหว่างนั้นนางสาวนุสราได้เหยียบถูกแก้วที่แตกภายในห้องพักมีบาดแผลที่เท้า นางสาวนุสราจึงขับรถจักรยานยนต์ของจำเลยไปซื้อผ้าปิดแผล โดยผู้เสียหายยังคงอยู่ภายในห้องพักกับจำเลยเพียงสองคน หลังจากนางสาวนุสรากลับมาที่ห้องพักแล้ว ผู้เสียหายได้ออกจากห้องพักเพื่อกลับบ้านและต่อมาได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีแก่จำเลยเป็นคดีนี้ พนักงานสอบสวนได้ส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต แพทย์ได้ทำรายงานการตรวจชันสูตรบาดแผลของผู้เสียหายไว้
คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ สำหรับความผิดฐานพรากผู้เยาว์โจทก์ฎีกาว่า โจทก์ได้นำสืบโดยชัดเจนแล้วว่า ขณะเกิดเหตุผู้เสียหายมีอายุ 16 ปีเศษ ตามที่ผู้เสียหายเบิกความตอบโจทก์ถามติง ซึ่งคำเบิกความของผู้เสียหายเป็นสาระสำคัญยิ่งกว่าหลักฐานทางทะเบียนราษฎร์ จึงฟังได้ว่าจำเลยพรากผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้เยาว์แล้วนั้น เห็นว่า แม้ผู้เสียหายจะเบิกความว่าขณะเกิดเหตุผู้เสียหายมีอายุ 16 ปีเศษ อยู่ในความปกครองดูแลของนางกิ้ม ซึ่งเป็นป้าและเป็นเจ้าของร้านคาราโอเกะก็ตาม แต่ข้อเท็จจริงได้ความจากคำเบิกความของผู้เสียหายตอบทนายจำเลยถามค้านว่า ร้านของป้าผู้เสียหายใช้ชื่อว่าน้องใหม่คาราโอเกะ มีพนักงานเสิร์ฟอยู่แล้วประมาณ 3 ถึง 4 คน พนักงานเสิร์ฟทุกคนอายุกว่า 18 ปีขึ้นไป โดยที่ร้านคาราโอเกะของป้าผู้เสียหายจะมีข้อความติดว่าห้ามบุคคลอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าไปใช้บริการ ในหนึ่งเดือนผู้เสียหายจะไปช่วยที่ร้านคาราโอเกะของป้า 10 วัน วันเกิดเหตุผู้เสียหายเข้าไปนั่งโต๊ะอาหารร่วมกับจำเลยเพราะนางสาวนุสราชักชวน ผู้เสียหายมีรูปร่างสูงกว่าและอวบกว่านางสาวนุสรา การพูดคุยกันที่โต๊ะอาหารส่วนใหญ่จำเลยจะพูดคุยกับนางสาวนุสรา บุคคลภายนอกซึ่งไม่ทราบความจริงจะเข้าใจว่าผู้เสียหายเป็นพนักงานเสิร์ฟ อันสอดคล้องกับคำเบิกความของจำเลยว่า วันเกิดเหตุ จำเลยกับพวกได้ไปดื่มเบียร์ที่ร้านน้องใหม่คาราโอเกะโดยมีผู้เสียหายและนางสาวนุสราพนักงานเสิร์ฟเข้ามาดูแล ผู้เสียหายมีรูปร่างสูงกว่านางสาวนุสราและรูปร่างอวบกว่า น่าจะมีอายุใกล้เคียงกับนางสาวนุสรา ระหว่างนั่งดื่ม ผู้เสียหายและนางสวนุสราได้เข้ามาพูดจาหยอกล้อกับจำเลย เท่าที่สังเกตดูทั้งสองคน ผู้เสียหายและนางสาวนุสราน่าจะเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้าน ดังนี้ เมื่อที่ร้านคาราโอเกะของป้าผู้เสียหายมีข้อความติดว่า ห้ามบุคคลอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าไปใช้บริการ อีกทั้งพนักงานเสิร์ฟทุกคนก็มีอายุกว่า 18 ปี ขึ้นไป ประกอบกับจำเลยมีรูปร่างสูงกว่าและอวบกว่านางสาวนุสราซึ่งนางสาวนุสรามีอายุ 24 ปี การที่ผู้เสียหายเข้าไปทำหน้าที่พนักงานเสิร์ฟร่วมกับนางสาวนุสรา ตลอดจนได้นั่งร่วมโต๊ะอาหารกับจำเลยย่อมทำให้จำเลยเข้าใจได้ว่าผู้เสียหายมีอายุใกล้เคียงกับนางสาวนุสราซึ่งมีอายุกว่า 18 ปีแล้วได้ แม้ทางนำสืบของโจทก์จะฟังได้ว่าการที่จำเลยพาผู้เสียหายเข้าไปที่ห้องพักภายในโรงแรมที่เกิดเหตุ อันเป็นการล่วงละเมิดอำนาจปกครองของป้าผู้เสียหายโดยปราศจากเหตุอันสมควรก็ตาม แต่ตามพฤติการณ์ดังกล่าวเมื่อจำเลยสำคัญผิดว่าผู้เสียหายพ้นวัยผู้เยาว์โดยเข้าใจว่าผู้เสียหายมีอายุเกินกว่า 18 ปี แล้วจึงเป็นการสำคัญผิดในข้อเท็จจริงเรื่องอายุอันเป็นองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 318 วรรคแรก การกระทำของจำเลยจึงขาดเจตนากระทำความผิดฐานดังกล่าวตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 วรรคสาม ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษายกฟ้องในความผิดฐานดังกล่าวมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ฎีกาข้อนี้ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคแรก (เดิม) ลงโทษจำคุก 4 ปี คำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยมีกำหนด 2 ปี 8 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8

Share