แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
คำสั่งศาลชั้นต้นมีผลเป็นการปฏิเสธไม่รับอุทธรณ์พร้อมคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีของจำเลยที่ยื่นด้วยเหตุที่จำเลยไม่ยอมนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมที่ต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษามาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ตามที่บทบัญญัติแห่งกฎหมายกำหนดศาลชั้นต้นได้เปิดโอกาสให้จำเลยปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายอีกครั้งหนึ่ง โดยให้จำเลยนำเงินมาวางภายใน 15 วัน แต่จำเลยยังคงยืนยันปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามด้วยการยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นคัดค้านคำสั่งปฏิเสธไม่รับอุทธรณ์และคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีนั้นต่อศาลอุทธรณ์ยืนยันไม่วางเงินค่าฤชาธรรมเนียม และขอให้ศาลอุทธรณ์สั่งรับอุทธรณ์และคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีของจำเลยไว้ ดังนี้ เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวนี้ย่อมมีผลเป็นการยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยคำสั่งของศาลอุทธรณ์เป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 236
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและขนย้ายทรัพย์สินออกจากที่ดินของโจทก์กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 20,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยและบริวารจะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากที่ดินดังกล่าว ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ 50,000 บาท
จำเลยยื่นอุทธรณ์และคำร้องขอทุเลาการบังคับคดี โดยมิได้วางเงินค่าฤชาธรรมเนียมที่ต้องใช้แก่อีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาอ้างว่า ได้ขอทุเลาการบังคับคดีไว้แล้ว ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 229 บัญญัติไว้ชัดแจ้งว่าผู้อุทธรณ์ต้องนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมซึ่งต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษามาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ ดังนี้ผู้อุทธรณ์จึงต้องปฏิบัติตามมาตราดังกล่าว ไม่สามารถขอทุเลาการบังคับได้จึงให้จำเลยนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมซึ่งต้องใช้แทนโจทก์มาวางศาลภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันนี้ มิฉะนั้นจะถือว่าไม่ติดใจอุทธรณ์
จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำสั่งยกคำร้อง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คำสั่งศาลชั้นต้นมีผลเป็นการปฏิเสธไม่รับอุทธรณ์พร้อมคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีของจำเลยที่ยื่นด้วยเหตุที่จำเลยไม่ยอมนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมที่ต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษามาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ตามที่บทบัญญัติแห่งกฎหมายกำหนดโดยศาลชั้นต้นได้เปิดโอกาสให้จำเลยปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายอีกครั้งหนึ่งโดยให้จำเลยนำเงินมาวางภายใน 15 วัน แต่จำเลยยังคงยืนยันปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามโอกาสที่ศาลชั้นต้นกำหนดให้ดังกล่าวด้วยการยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นคัดค้านคำสั่งปฏิเสธไม่รับอุทธรณ์และคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีนั้นต่อศาลอุทธรณ์ภาค 4 ยืนยันไม่วางเงินค่าฤชาธรรมเนียมแต่ขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 4 สั่งรับอุทธรณ์และคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีของจำเลยไว้เท่านั้นหาได้มีคำขอประการอื่นไม่ ดังนี้ เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 4มีคำสั่งยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวนี้ย่อมมีผลเป็นการยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยคำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 4 นี้เป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 จำเลยไม่มีสิทธิที่จะฎีกา”
พิพากษายกฎีกาจำเลย คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาให้จำเลยทั้งหมด