คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9275/2544

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

เมื่อทางนำสืบของโจทก์ไม่ปรากฏพฤติการณ์ว่าจำเลยที่ 1 และที่ 3 แบ่งบรรจุเฮโรอีนของกลางโดยมีวัตถุประสงค์ที่เป็นอันตรายแก่สังคมอย่างร้ายแรงทำนองเดียวกับการเพาะปลูก ทำ ผสม ปรุง แปรสภาพ เปลี่ยนรูป หรือสังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ทั้งศาลอุทธรณ์ภาค 1 ก็ฟังว่าจำเลยที่ 1 และที่ 3 อาจแบ่งบรรจุเพื่อความสะดวกในการเสพของตนก็เป็นได้ เช่นนี้ การกระทำของจำเลยที่ 1 และที่ 3 จึงไม่เป็นการผลิตตามมาตรา 4,65
กระบอกและเข็มฉีดยาของกลางมิใช่สิ่งของที่เกี่ยวข้องกับฐานความผิดที่โจทก์ฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5) เพราะโจทก์มิได้ฟ้องในความผิดฐานเสพยาเสพติดด้วย แม้ทรัพย์ดังกล่าวจะมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด แต่ก็เป็นความผิดฐานอื่นไม่เกี่ยวกับฐานความผิดในคดี จึงไม่อาจริบกระบอกและเข็มฉีดยาของกลางได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 65, 66, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 91 ริบของกลาง

จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ

จำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 และที่ 3 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 65 วรรคหนึ่ง, 67 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานผลิตเฮโรอีน จำคุกตลอดชีวิตฐานมีเฮโรอีนและเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครอง จำคุกคนละ 2 ปี จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 53 ฐานผลิตเฮโรอีน จำคุก 25 ปี ฐานมีเฮโรอีนและเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครอง จำคุก 1 ปี คงจำคุก จำเลยที่ 1 มีกำหนด 26 ปี และจำเลยที่ 3 คงจำคุกตลอดชีวิตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(3) ยกฟ้องจำเลยที่ 2 ริบของกลาง

จำเลยที่ 1 และที่ 3 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ยกฟ้องจำเลยที่ 1 และที่ 3ฐานผลิตเฮโรอีน คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 1 ปี จำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด2 ปี ไม่ริบกระบอกและเข็มฉีดยาของกลาง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงได้ความตามที่ศาลล่างทั้งสองฟังต้องกันเพียงว่าตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุดังฟ้อง จำเลยที่ 1 และที่ 3 ร่วมกันตัดหลอดกาแฟและกรอกเฮโรอีนใส่หลอดกาแฟของกลาง มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์เป็นประการแรกว่าจำเลยที่ 1 และที่ 3 มีความผิดฐานร่วมกันผลิตเฮโรอีนหรือไม่ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า การผลิตโดยการแบ่งบรรจุตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษต้องเป็นการแบ่งบรรจุที่เป็นอันตรายแก่สังคมอย่างร้ายแรงทำนองเดียวกับการเพาะ ปลูก ทำ ผสม ปรุง แปรสภาพ เปลี่ยนรูป หรือสังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ เมื่อทางนำสืบของโจทก์เฉพาะคดีนี้ไม่ปรากฏพฤติการณ์ว่าจำเลยที่ 1 และที่ 3 แบ่งเฮโรอีนของกลางโดยมีวัตถุประสงค์ที่เป็นอันตรายแก่สังคมอย่างร้ายแรงทำนองเดียวกับการเพาะปลูก ทำ ผสม ปรุง แปรสภาพเปลี่ยนรูป หรือสังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ทั้งศาลอุทธรณ์ภาค 1 ก็ฟังว่าจำเลยที่ 1 และที่ 3 อาจแบ่งบรรจุเพื่อความสะดวกในการเสพของตนก็เป็นได้ เช่นนี้ การกระทำของจำเลยที่ 1 และที่ 3 จึงไม่เป็นการผลิตตามบทกฎหมายดังกล่าว

ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ประการต่อไปมีว่า กระบอกและเข็มฉีดยาของกลางนั้น ชอบที่ศาลจะริบได้หรือไม่ เห็นว่า ของกลางดังกล่าวมิใช่สิ่งของที่เกี่ยวข้องกับฐานความผิดที่โจทก์ฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) เพราะโจทก์มิได้ฟ้องในความผิดฐานเสพยาเสพติดด้วย แม้ทรัพย์ดังกล่าวจะมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด แต่ก็เป็นความผิดฐานอื่นไม่เกี่ยวกับฐานความผิดในคดีนี้ หากศาลพิพากษาให้ริบ ย่อมมีผลเป็นการพิพากษาเกินไปจากหรือที่มิได้กล่าวในฟ้องอันเป็นการต้องห้ามตามมาตรา 192 วรรคหนึ่งแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ศาลจึงไม่อาจริบกระบอกและเข็มฉีดยาของกลางดังกล่าวได้ ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share