แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 ที่บัญญัติว่า”คู่ความหรือบุคคลซึ่งเป็นฝ่ายชนะ (เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา) ชอบที่จะร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นได้ภายในสิบปีนับแต่วันที่มีคำพิพากษาหรือคำสั่ง โดยอาศัยและตามคำบังคับที่ออกตามคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้น” ภายในกำหนดเวลาสิบปีดังกล่าว เจ้าหนี้ต้องดำเนินการบังคับคดีตามขั้นตอนให้ครบถ้วน ประการแรกต้องขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีประการที่สองต้องแจ้งหรือแถลงให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบว่าศาลออกหมายบังคับคดีแล้ว ประการที่สามต้องแถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีว่าเจ้าหนี้มีความประสงค์ขอให้ยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ แม้ว่าเจ้าหนี้จะร้องขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีและศาลออกหมายบังคับคดีภายในกำหนดเวลาดังกล่าว เจ้าหนี้ก็ยังมีหน้าที่ต้องแถลงนำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดทรัพย์ของลูกหนี้ออกขายทอดตลาดแต่เมื่อล่วงเลยระยะเวลาสิบปีนับแต่วันที่มีคำพิพากษาแล้ว เจ้าหนี้ยังมิได้นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของลูกหนี้เลย เจ้าหนี้ย่อมหมดสิทธิที่จะบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้ต่อไป เมื่อล่วงเลยระยะเวลาสิบปีแล้ว เจ้าหนี้มีสิทธิเพียงที่จะบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินที่ยึดไว้ให้เสร็จสิ้นไปเท่านั้นแต่จะขอให้บังคับคดีแก่ทรัพย์สินอื่นของลูกหนี้หรือจำเลยร่วมตามคำพิพากษาในคดีแพ่งอีกหาได้ไม่
เมื่อหนี้ตามคำพิพากษาที่เจ้าหนี้นำมายื่นคำขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ เจ้าหนี้มิได้ดำเนินการบังคับคดีภายในสิบปีนับแต่วันที่มีคำพิพากษา เจ้าหนี้ในฐานะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาย่อมหมดสิทธิที่จะบังคับคดี หนี้ดังกล่าวอยู่ในฐานะเป็นหนี้ที่จะร้องขอให้บังคับคดีไม่ได้ จึงต้องห้ามมิให้ขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 มาตรา 94(1)
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้ (จำเลย)ไว้เด็ดขาดแล้วเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2540 เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นจำนวน 5,076,768 บาทจากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ รายละเอียดปรากฏตามบัญชีท้ายคำขอรับชำระหนี้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นัดตรวจคำขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 104 แล้ว ไม่มีผู้ใดโต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้รายนี้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้วเห็นว่า หนี้ตามคำพิพากษาที่เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ เจ้าหนี้ไม่บังคับชำระหนี้ให้เสร็จภายใน 10 ปี นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 เจ้าหนี้ย่อมหมดสิทธิที่จะบังคับคดีแก่ลูกหนี้แล้ว จึงต้องห้ามมิให้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 94(1) เห็นควรยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
เจ้าหนี้อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
เจ้าหนี้ฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงที่ไม่โต้เถียงกันในชั้นนี้ฟังได้ว่า ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดเมื่อวันที่ 9เมษายน 2540 หลังจากนั้นเจ้าหนี้ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามคำพิพากษาพร้อมดอกเบี้ยเป็นจำนวน 5,076,768 บาท เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2540โดยหนี้รายนี้ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2529 ตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 19603/2529 ระหว่าง บริษัทสยามยามาฮ่าจำกัด โจทก์ บริษัทเอกสยามเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ที่ 1 นายชัยวัฒน์พัฒนเกียรติ ที่ 2 นางสาวสายพร เลิศไพบูลย์ ที่ 3 จำเลย ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน 1,829,466 บาท พร้อมดอกเบี้ย
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของเจ้าหนี้ว่า เจ้าหนี้มีสิทธิได้รับชำระหนี้ตามที่ขอหรือไม่ เจ้าหนี้ฎีกาว่า การที่เจ้าหนี้ขอให้ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีเพื่อทำการยึดหรืออายัดทรัพย์สินของลูกหนี้ควรถือได้ว่าเจ้าหนี้ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้ขอให้ศาลชั้นต้นดำเนินการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาแล้ว เห็นว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 ที่บัญญัติว่า “คู่ความหรือบุคคลซึ่งเป็นฝ่ายชนะ (เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา) ชอบที่จะร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นได้ภายในสิบปีนับแต่วันที่มีคำพิพากษาหรือคำสั่ง โดยอาศัยและตามคำบังคับที่ออกตามคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้น”ภายในกำหนดเวลาสิบปีดังกล่าว เจ้าหนี้ต้องดำเนินการบังคับคดีตามขั้นตอนให้ครบถ้วน ประการแรกต้องขอให้ศาลออกหมายบังคับคดี ประการที่สองต้องแจ้งหรือแถลงให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบว่าศาลออกหมายบังคับคดีแล้ว ประการที่สามต้องแถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีว่าเจ้าหนี้มีความประสงค์ขอให้ยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ ดังนี้ แม้ว่าภายในกำหนดเวลาดังกล่าว เจ้าหนี้จะร้องขอให้ศาลออกหมายบังคับคดี และศาลออกหมายบังคับคดีแล้ว เจ้าหนี้ยังมีหน้าที่ต้องแถลงนำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดทรัพย์ของลูกหนี้ออกขายทอดตลาด แต่เมื่อล่วงเลยระยะเวลาสิบปีนับแต่วันที่มีคำพิพากษาแล้วเจ้าหนี้ยังมิได้นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของลูกหนี้เลย เจ้าหนี้ย่อมหมดสิทธิที่จะบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้ต่อไป ส่วนการที่เจ้าหนี้นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดหุ้นของบริษัทไทยเพียวแก๊ส จำกัด จำนวน 2,000 หุ้น ซึ่งหุ้นดังกล่าวเป็นของจำเลยที่ 2 และที่ 3 ในคดีหมายเลขแดงที่ 19603/2529ตามประกาศเจ้าพนักงานบังคับคดี กรมบังคับคดี เรื่อง ขายทอดตลาดหุ้นท้ายอุทธรณ์ของเจ้าหนี้และหุ้นดังกล่าวอยู่ระหว่างดำเนินการขายทอดตลาดนั้น เห็นว่า เมื่อล่วงเลยระยะเวลาสิบปีแล้ว เจ้าหนี้มีสิทธิเพียงที่จะบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินที่ยึดไว้ให้เสร็จสิ้นไปเท่านั้น แต่จะขอให้บังคับคดีแก่ทรัพย์สินอื่นของลูกหนี้หรือจำเลยร่วมตามคำพิพากษาในคดีแพ่งอีกหาได้ไม่ อีกทั้งการที่เจ้าหนี้ในฐานะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีแพ่งนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยที่ 2 และที่ 3 ในคดีแพ่ง ก็เป็นเพียงการปฏิบัติตามขั้นตอนในการบังคับคดีแก่จำเลยที่ 2 และที่ 3 ในคดีดังกล่าวเท่านั้น เมื่อหนี้ที่เจ้าหนี้นำมายื่นคำขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ เจ้าหนี้มิได้ดำเนินการบังคับคดีภายในสิบปีนับแต่วันที่มีคำพิพากษาหนี้ตามคำพิพากษาดังกล่าวนั้นย่อมเป็นหนี้ที่เจ้าหนี้ในฐานะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาหมดสิทธิที่จะบังคับคดีเสียแล้ว หนี้ดังกล่าวย่อมอยู่ในฐานะเป็นหนี้ที่จะร้องขอให้บังคับคดีไม่ได้ ต้องห้ามมิให้ขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 94(1) ที่ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งและคำพิพากษาให้ยกคำขอรับชำระหนี้นั้นชอบแล้ว
พิพากษายืน