คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 927/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เช่าเคหะโดยมีหนังสือสัญญาเช่าและมีข้อความห้ามเช่าช่วง เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าผู้ให้เช่ายินยอมให้ผู้เช่าให้เช่าช่วงได้ แม้การยินยอมจะไม่ได้มีปรากฎเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้เช่าช่วงก็ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ

ย่อยาว

โจทย์ฟ้องว่า เดิมพระคลังข้างที่ให้นายกระแสร์ศิริกาญจน์ เช่าตึกพิพาท นายกระแสร์ผิดสัญญาเอาตึกไปให้จำเลยเช่าช่วง จำเลยดัดแปลงต่อเติมทำให้ตึกเสียหายและยังเอาไปให้ผู้อื่นเช่าช่วงต่อ จึงได้เลิกสัญญากับนายกระแสร์ นายกระแสร์ได้ส่งมอบตึกแล้ว จำเลยไม่ยอมออก ขอให้ขับไล่และใช้ค่าเสียหาย
จำเลยต่อสู้ว่าพระคลังข้างที่ให้นายกระแสร์เช่าไปโดยอนุญาตให้เช่าช่วงได้ จำเลยได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ
ศาลแพ่งวินิจฉัยว่า เมื่อนายกระแสร์ไม่มีสิทธิให้เช่าช่วงได้ จำเลยผู้อาศัยสิทธินายกระแสร์ก็ไม่มีสิทธิจะอ้างยันเจ้าของเดิมได้ ถือได้ว่าจำเลยเป็นบริวารของนายกระแสร์ พิพากษาให้ขับไล่ ฯลฯ
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่านายศุจิน ผู้อำนวยการพระคลังข้างที่ ผู้ดูแลจัดการแทนเจ้าของห้องรายพิพาทรับว่าห้องพิพาทที่ให้นายกระแสร์เช่าไปนั้นเพื่อให้เช่าช่วงได้ แสดงให้เห็นเจตนาว่าได้สละข้อห้ามเรื่องเช่าช่วงตามที่ปรากฎในแบบพิมพ์สัญญาแล้ว ฉะนั้นเมื่อจำเลยต่อสู้ว่าได้รับคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ และห้องพิพาทฟังได้ว่าเป็นเคหะ ถึงแม้จะไม่มีสัญญาเช่าต่อกัน จำเลยก็ย่อมได้รับคุ้มครอง พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์

Share