คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 642/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่ออ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว โจทก์ตาย ผู้ร้องยื่นคำร้องขอรับมรดกความแทนโจทก์ แต่เป็นเวลาล่วงพ้นอายุความฎีกาแล้วดังนี้ผู้ร้องฎีกาไม่ได้ ได้แต่เป็นผู้รับมรดกความแทนโจทก์เท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยฐานสับฟันและกระเทาะเปลือกต้นยางพาราของโจทก์เสียหาย 89 ต้น เป็นเงิน 12,000 บาท

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ 6,180 บาท

โจทก์จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเพียง 3,300 บาท นอกนั้นยืน

จำเลยยื่นฎีกาภายในกำหนดอายุความฎีกา

ครั้นเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2496 นางสุกภรรยาโจทก์ยื่นคำร้องว่าโจทก์ตายเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2496 ขอรับมรดกความศาลสอบจำเลยแล้วไม่คัดค้านและมีคำสั่งอนุญาตให้นางสุกเข้ารับมรดกความแทนโจทก์ได้เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2496 ต่อมาวันที่ 22 มิถุนายน 2496 นางสุกผู้ร้องยื่นฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อนางสุกผู้ร้อง ร้องขอรับมรดกความเป็นเวลาล่วงพ้นกำหนดอายุความฎีกาเสียแล้ว ผู้ร้องจึงฎีกาไม่ได้ได้แต่เป็นผู้รับมรดกความแทนนายเพ็ชรทองโจทก์เท่านั้น แล้ววินิจฉัยเฉพาะฎีกาของจำเลย

พิพากษายืน

Share