คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1668/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ห้องแถวพิพาทอยู่ห่างตลาดประมาณ 50 เมตร์ผู้เช่าได้จดทะเบียนพาณิชย์ประกอบการค้าเครื่องดื่มต่าง ๆ อาหารและสุรายาสูบ มีลูกจ้างในการค้า 2 คน และยังมีอีกคนหนึ่งทำหน้าที่ขายอาหารแบ่งผลกำไรกับผู้เช่า ห้องพิพาทจึงเป็นร้านค้าโดยตรง ไม่ใช่เป็นการค้าขายเล็ก ๆ น้อย ๆ ในครอบครัว จึงไม่เป็นเคหะ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าห้องแถวโจทก์เพื่อทำการค้า จำเลยให้ผู้อื่นเช่าช่วงบางส่วนโจทก์ได้บอกเลิกการเช่าแล้ว จึงขอให้ขับไล่
จำเลยว่าเช่าเพื่ออยุ่อาศัย ไม่ได้มีการเช่าช่วง
ศาลชั้นต้นฟังว่าห้องรายพิพาทเป็นเคหะเรื่องเช่าช่วงโจทก์สืบไม่สม พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์อุทธรณ์ โดยผู้พิพากษาผู้พิจารณาคดีรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยเช่าเพื่อประกอบการค้าเป็นอาชีพพิพากษากลับให้ขับไล่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่าห้องแถวรายพิพาทอยู่หน้าโรงแรมสุขสมบูรณ์ ไกลตลาดสดประมาณ ๕๐ เมตร จำเลยจดทะเบียนพาณิชย์ใช้ยี่ห้อ “ตันเม่งเฮง” ทำการค้าน้ำชา ,กาแฟและเครื่องดื่มต่าง ๆ แล้วได้เปิดการขายอาหารมีข้าวต้มโจ๊ก ข้าวมันไก่ กับได้รับอนุญาตให้จำหน่ายสุรายาสูบด้วยจำเลยมีลูกจ้างในการค้า ๒ คน และยังมีอีกคนหนึ่งทำหน้าที่ขายข้าวต้มโจ๊ก ข้าวมันไก่ โดยแบ่งปันผลกำไรกัน เห็นว่าห้องพิพาทใช้เป็นร้านค้าโดยตรง ไม่ใช่ค้าขายเล็ก ๆ น้อย ๆ ในครอบครัวเพื่อยังชีพเท่านั้น ห้องพิพาทจึงไม่ใช่เคหะได้รับความคุ้มครองพิพากษายืน

Share