คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 924/2558

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลอุทธรณ์ภาค 9 มีคำสั่งถึงที่สุดให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่ตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 มาตรา 99 วรรคหนึ่ง โจทก์จัดให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูลแทนจำเลยเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2552 มูลหนี้ค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่ที่โจทก์มีสิทธิเรียกร้องจากจำเลยจึงเกิดขึ้นตั้งแต่วันดังกล่าว ก่อนศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2552 และเป็นหนี้ที่อาจกำหนดจำนวนได้โดยแน่นอน โจทก์จึงต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีล้มละลายภายในกำหนด 2 เดือน นับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 91 ส่วนที่โจทก์มีมติเห็นชอบให้กำหนดจำนวนค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 6 กรกฎาคม 2553 เป็นเรื่องการรวบรวมค่าเสียหายให้ถูกต้องครบถ้วน มิใช่มูลหนี้ค่าเสียหายเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อโจทก์มีมติ เพราะหากเป็นเช่นนั้นก็จะเป็นช่องทางหลีกเลี่ยงและขยายเวลาขอรับชำระหนี้ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 91

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชดใช้เงิน 10,875,805.50 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2553 ซึ่งเป็นวันผิดนัดจนถึงวันฟ้องเป็นดอกเบี้ย 538,575.84 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 11,414,381.34 บาท
จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลหมายเรียกเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้ามาในคดี
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นคำร้องขอให้จำหน่ายคดี
โจทก์ยื่นคำคัดค้าน
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่โต้เถียงกันในชั้นนี้รับฟังเป็นยุติว่า จำเลยได้รับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล ต่อมาโจทก์เห็นว่าจำเลยหาเสียงเลือกตั้งฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 มาตรา 57 จึงฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งของจำเลย และมีคำสั่งให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูลใหม่แทนจำเลย ศาลอุทธรณ์ภาค 9 มีคำสั่งเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งของจำเลยมีกำหนด 1 ปี และให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูลใหม่แทนจำเลย ตามคดีหมายเลขแดงที่ 1340/2552 ของศาลอุทธรณ์ภาค 9 องค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูลจึงจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2552 เสียค่าใช้จ่ายในการจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่เป็นเงิน 10,875,805.50 บาท ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2552 ตามคดีหมายเลขแดงที่ ล.18299/2552 ของศาลล้มละลายกลาง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้โฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2553 โดยโจทก์ไม่ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีดังกล่าว แต่ฟ้องขอให้จำเลยชำระค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูลใหม่แทนเป็นจำเลยคดีนี้เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2554
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า มูลหนี้ตามฟ้องเกิดขึ้นก่อนหรือหลังศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาด และโจทก์มีสิทธิดำเนินคดีแก่จำเลยต่อไปได้หรือไม่ เห็นว่า ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2552 คณะกรรมการการเลือกตั้งโจทก์มีมติเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง และให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูลใหม่แทนจำเลย ทั้งยื่นคำร้องขอให้ศาลเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งของจำเลยและมีคำสั่งให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูลใหม่แทนจำเลย และศาลอุทธรณ์ภาค 9 มีคำสั่งถึงที่สุดให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่ ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 มาตรา 99 วรรคหนึ่ง โจทก์จัดให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูลใหม่แทนจำเลยเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2552 มูลหนี้ค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่ที่โจทก์มีสิทธิเรียกร้องจากจำเลยจึงเกิดขึ้นตั้งแต่วันดังกล่าว ก่อนศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2552 และเป็นหนี้ที่อาจกำหนดจำนวนได้โดยแน่นอน โจทก์จึงต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีล้มละลาย ภายในกำหนด 2 เดือน นับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 91 ซึ่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ประกาศโฆษณาในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2553 ส่วนที่โจทก์มีมติเห็นชอบให้กำหนดจำนวนค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่เป็นเงิน 10,875,805.50 บาท เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2553 เป็นเรื่องการรวบรวมค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2552 ให้ถูกต้องครบถ้วน มิใช่มูลหนี้ค่าเสียหายเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อโจทก์มีมติ เพราะหากเป็นเช่นนั้นก็จะเป็นช่องทางให้หลีกเลี่ยงและขยายเวลาขอรับชำระหนี้ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 91 โดยเลื่อนการมีมติเมื่อเห็นว่าไม่ได้ขอรับชำระหนี้ภายในกำหนด อีกทั้งมิใช่เป็นกรณีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้าว่าคดีที่ค้างพิจารณาอยู่แทนจำเลยและเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แพ้คดีที่โจทก์มีสิทธิรับชำระหนี้ได้ภายใน 2 เดือน นับจากวันคดีถึงที่สุด ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 93 ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นที่ให้จำหน่ายคดีเนื่องจากโจทก์ไม่ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายนั้น ชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share