แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ปัญหาที่ว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยหรือไม่ ในเมื่อหนี้ยังไม่ถึงกำหนดชำระไม่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องจำเลยเมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๐๖ ว่า จำเลยกู้เงินโจทก์ไป ๓,๗๕๐ บาท จำเลยมอบ ส.ค. ๑ ให้โจทก์ยึดถือไว้เป็นประกัน สัญญาจะนำเงินใช้ให้โจทก์ภายใน ๓๑ ธันวาคม ๒๕๐๖ วันนี้ โจทก์ทราบว่าจำเลยเอาไร่ตาม ส.ค. ๑ ไปโอนขายให้นายเต๊ย โจทก์จึงขอให้ศาลบังคับให้จำเลยใช้ต้นเงินและดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า ไม่ได้กู้เงิน
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยกู้เงินโจทก์จริงจำเลยเอาไร่ไปโอนขายให้นายจิระ เรียกว่าลูกหนี้ได้ทำลายหรือทำให้น้อยลงซึ่งประกันอันได้ให้ไว้ ให้จำเลยใช้เงินต้นและดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา แต่ศาลชั้นต้นรับฎีกาจำเลยเฉพาะข้อกฎหมายที่ว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยหรือไม่ในเมื่อหนี้ยังไม่ถึงกำหนดชำระ
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อกฎหมายที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยหรือไม่ในเมื่อหนี้ยังไม่ถึงกำหนดชำระ จำเลยมิได้ยกขึ้นเป็นประเด็นต่อสู้ในคำให้การ และไม่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ไม่มีประเด็นที่ศาลฎีกาจะหยิบยกขึ้นวินิจฉัย
พิพากษายืน.