แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีเรื่องลักทรัพย์ ปัญหาที่ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตหรือไม่นั้นเปนปัญหาข้อเท็ดจิง
ย่อยาว
โจทฟ้องว่า จำเลยลักตัดยางพารารับเบอร์เพื่อเอาน้ำยางของนายอมร ติระพัธน์ ขอไห้ลงโทส
จำเลยไห้การว่าได้กรีดยางของจำเลยซึ่งปลูกหยู่ไนที่ดินของกรมทางและปกครองมา ๑๐ กว่าปีแล้ว จำเลยไม่มีเจตนาทุจริต
สาลชั้นต้นฟังว่า ต้นยางแถวที่จำเลยกรีดรองน้ำยางนี้ ขึ้นหยู่ไนเขตถนนหลวงนอกเขตแผนที่สแดงบริเวนที่ซึ่งโจทรับซื้อไว้จากการขายทอดตลาด จึงพิพากสาว่าจำเลยไม่มีความผิด ไห้ยกฟ้องโจท
โจทอุธรน์ สาลอุธรน์พิพากสายืน
โจทดี่กา ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริต สาลดีกาเห็นว่า คดีนี้สาลชั้นต้นตัดสินว่าทรัพย์ที่โจทกล่าวหาว่าจำเลยลักนั้นมิไช่ทรัพย์ของเจ้าทรัพย์ +สาลอุธรน์ตัดสินว่าเปนทรัพย์ของเจ้าทรัพย์แต่จำเลยอาดถือไจขึ้นไหม่พายหลังว่ามิไช่ทรัพย์ของเจ้าทรัพย์ และจำเลยทำโดยเปิดเผยตั้งแต่แรกเข้าหยู่โดยถือว่า ต้นยางเหล่านั้นหยู่ไนเขตถนนหลวง จึงฟังได้ว่าจำเลยไม่มีเจตนาทุจริต การมีเจตนาทุจริตหรือไม่นั้นสาลดีกาเห็นว่าเปนปัญหาข้อเท็ดจิง ซึ่งโจทดีกาไม่ได้ ต้องห้ามตามมาตรา ๒๑๙ ประมวนวิธีพิจารนาความอาญา จึงพิพากสาไห้ยกดีกาโจท