คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 921/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ ฟ้องคดีเองโจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานแล้วและศาลทำการไต่สวนมูลฟ้องจนสั่งคดีมีมูลแล้ว นัดพิจารณาต่อไปในชั้นพิจารณาศาลก็ออกหมายเรียกพยานตามบัญชีระบุพยานนั้นมอบให้โจทก์รับไป แม้จะไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานอีกในชั้นพิจารณาก็ย่อมถือว่าโจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลตามกฎหมายแล้ว
โจทก์รับหมายพยานไปแล้ว จะส่งให้พยานได้หรือไม่ไม่ปรากฏ พยานไม่มาศาลโดยไม่ปรากฏว่าโจทก์พยายามเสือกใสหน่วงเหนี่ยว จะว่าโจทก์ประวิงความและไม่ให้โจทก์เลื่อนคดีไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพ และทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 327,145, 268

ศาลไต่สวนสั่งคดีมีมูล หมายเรียกจำเลย ๆ มาศาลให้การปฏิเสธวันนัดสืบพยานโจทก์คงมีตัวโจทก์มาศาลผู้เดียวพยานโจทก์ไม่มาศาลทนายโจทก์ขอเลื่อน จำเลยคัดค้านว่าโจทก์ไม่ได้ระบุพยาน ไม่ยอมให้เลื่อน ศาลชั้นต้นยอมให้สืบตัวโจทก์พยานอื่นที่ไม่มา ให้สืบไม่ได้โจทก์จึงแถลงไม่สืบตัวโจทก์ เพื่ออุทธรณ์ต่อไป ศาลชั้นต้นจึงพิพากษายกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาและพิพากษาใหม่

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้โจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว ย่อมถือได้ว่าเป็นการแสดงความจำนงของโจทก์ที่จะอ้างอิงพยานหลักฐานสำหรับคดีตลอดทั้งเรื่อง จะถือว่าโจทก์ยังไม่ได้ระบุพยานไม่ได้ และเมื่อปรากฎว่าศาลได้ออกหมายเรียกพยานโจทก์ตรงตามบัญชีระบุพยานโจทก์ให้ทนายรับไปแล้ว จะไปส่งให้แก่พยานแล้วหรือไม่ ก็ไม่สอบถามให้ปรากฎ ถ้าพยานรับหมายแล้วไม่มาศาล จะถือเอาว่าเป็นความผิดของโจทก์ก็ไม่ได้ เพราะเป็นกรณีระหว่างศาลกับผู้รับหมาย เว้นแต่โจทก์ได้พยายามเสือกใสหรือหน่วงเหนี่ยวพยานมิให้มาศาลเพื่อประวิงคดี ซึ่งในกรณีนี้ยังไม่ปรากฎชัดเช่นนั้น จึงเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

Share