คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 920/2478

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานมีฝิ่นเกินปริมาณอันควรมีตามบัญชีตาม ม.57 นั้นกฎหมายบัญญัติให้ความผิดตกอยู่แก่ผู้รับอนุญาต+ร้ายฝิ่นแต่ผู้เดียว แลความผิดฐานมีกล้องสูปฝิ่นเกินกว่าที่เจ้าพนักงานกำหนดไว้ตาม ม.35 ข้อ 1 ก็บัญญัตให้ความผิดตกอยู่แก่ผู้รับอนุญาตตั้งร้าน+สิ่งมีกล้องสูบฝิ่นนั้นไว้ในความปกครอง ฉะนั้นแม้จะมีผู้ที่สมคบด้วยในการกระทำผิดดังกล่วข้างต้นก็หามีความผิดด้วยไม่
วิธีพิจารณาความอาญา ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.225 – 213 อำนาจศาลฎีกา
ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยถึงจำเลยผุ้ที่มิได้ฎีกาขึ้นมาได้ ถ้าหากเป็นเหตุในลักษณคดี
พะยาน คำรับสารภาพ

ย่อยาว

คดีนี้ ฮ.จำเลยเป็นผู้รับใบอนุญาตให้ตั้งร้านขายฝิ่น ซ. จำเลยเป็นลูกจ้างดูแลร้านฝิ่น โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทั้ง ๒ นี้สมคบกันมีฝิ่นแลมูลฝิ่นไว้เกินบัญชีจากปริมาณกับมีกล้องฝิ่นไว้เกินกว่าที่เจ้าพนักงานกำหนดให้ ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ฝิ่น พ.ศ.๒๔๗๒ ม.๓๕ -๕๓ – ๕๗ – ๖๖ – ๖๙
จำเลยทั้ง ๒ ให้การรับสารภาพ
ศาลล่างทั้ง ๒ พิพากษาให้ปรับจำเลยทั้ง ๒ ตามกฎหมายข้างต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าข้อหาฐานมีฝิ่นเกินบัญชีนั้นตาม ม.๕๗ ข้อ ๒ ผู้ที่จะได้รับโทษฐานมีฝิ่นเกินบัญชีคือผู้ที่ได้รับอนุญาตตั้งร้านฝิ่น จึงควรเข้าใจว่าความผิดทางอาญาฐานนี้ตกอยู่แก่ผู้รับอนุญาตตั้งร้านฝิ่นแต่เดียวฉะนั้น ฮ.จำเลยต้องรับผิดชอบแต่ผู้เดียวแม่ว่า ซ.จำเลยผู้เป็นลูกจ้างได้รับสารภาพในความผิดกะทงนี้ด้วยก็ตาม แต่การรับสารภาพหามีมูลทำให้เกิดความรับผิดชอบขึ้นไม่ ส่วนข้อหาที่ว่ามีกล้องสูบฝิ่นเกินจำนวนตามมาตรา ๓๕ ซึ่งเป็นโทษเข้าอยู่ในมาตรา ๖๖ นั้นเห็นว่าความผิดกะทงนี้เป็นผิดเพราะที่มีกล้องสูบฝิ่นอยู่ในครอบครอง ในคดีนี้คือ ฮ.จำเลยผู้ได้รับอนุญาตตั้งร้านฝิ่น จะว่า ซ.จำเลยเป็นตัวการในการกระทำผิดด้วยไม่ได้ เพราะไม่ปรากฎว่ากล้องสูบฝิ่นอยู่ในครอบครองต่างหากของ ซ. จำเลย แม้ ซ.จะรับสารภาพก็หามีผิดในกะทงนี้ไม่ จึงพิพากษาให้ปล่อย ซ. จำเลยแลให้ปรับ ฮ.จำเลยยืนตามศาลชั้นต้น

Share