แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การฟ้องเรียกค่าจ้างทำของตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 มีกำหนดอายุความ2 ปี นับแต่วันรับมอบงาน โจทก์สร้างบ้านและรั้วพิพาทเสร็จส่งมอบให้จำเลยเมื่อเดือนตุลาคม 2526 และจำเลยได้เข้าไปอยู่ในบ้านพิพาทเมื่อปลายเดือนตุลาคม 2526 โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2528 ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ ส่วนที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเอาไม้แบบพิพาทของโจทก์ไปทำสะพานทางเดินและเรียกทรัพย์หรือราคาทรัพย์ดังกล่าวคืนนั้นเป็นการที่โจทก์ใช้สิทธิติดตามเรียกเอาทรัพย์คืนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336 ซึ่งไม่มีอายุความบัญญัติห้ามไว้ ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ว่าจ้างโจทก์ให้ทำการปลูกบ้านพิพาทซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยจำนวน 1 หลัง ตามแบบแปลนที่กำหนดในราคา520,000 บาท แต่จำเลยกลับผิดสัญญาไม่ชำระค่าจ้างงวดสุดท้ายจำนวน 50,000 บาท ให้แก่โจทก์ นอกจากนี้จำเลยยังได้ว่าจ้างโจทก์ให้ทำการสร้างรั้วพิพาทรอบบ้านพิพาทในราคา 52,000 บาทและจำเลยยังได้ยึดเอาไม้แบบพิพาทของโจทก์ประมาณ 70 แผ่น ราคาแผ่นละ 200 บาทเศษ เป็นเงิน 15,000 บาท ซึ่งใช้ในการก่อสร้างไปทำเป็นสะพานเดินเข้าบ้าน ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินให้แก่โจทก์ และให้จำเลยส่งมอบไม้แบบพิพาทจำนวนประมาณ 70 แผ่นคืนแก่โจทก์ มิฉะนั้นก็ให้จำเลยชดใช้ราคาจำนวน 15,000 บาทให้แก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยค้างชำระค่าจ้างก่อสร้างบ้านพิพาทแต่อย่างใด จำเลยไม่เคยจ้างโจทก์สร้างรั้วพิพาทให้แก่จำเลย จำเลยจึงไม่เคยติดค้างค่าก่อสร้างรั้วพิพาทสำหรับไม้แบบพิพาทนั้นจำเลยไม่เคยยึดถือเอาไว้เลย โจทก์ได้ขนย้ายออกไปจากบ้านของจำเลยทั้งหมดแล้ว ฟ้องของโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 50,000 บาท ให้แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยและให้ชำระเงินจำนวน 5,000 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยและให้จำเลยคืนไม้แบบพิพาทจำนวน 70 แผ่นให้แก่โจทก์ หากไม่สามารถจะคืนได้ก็ให้ชำระราคาจำนวน 7,000 บาทให้แก่โจทก์
โจทก์ จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นรับฟังได้ว่า จำเลยได้ว่าจ้างโจทก์ปลูกบ้านพิพาทและก่อสร้างรั้วพิพาทจริง ปัญหาวินิจฉัยประการแรกมีว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ เห็นว่าตามฟ้องโจทก์ฟ้องเรียกค่าจ้างทำของคือค่าจ้างปลูกสร้างบ้านและรั้วพิพาท กับฟ้องว่าจำเลยเอาไม้แบบพิพาทของโจทก์ไปทำสะพานทางเดินและเรียกทรัพย์หรือราคาทรัพย์คืน การเรียกค่าจ้างทำของนั้นโจทก์เบิกความว่าสร้างบ้านและรั้วพิพาทเสร็จส่งมอบให้จำเลย เมื่อเดือนตุลาคม2526 จำเลยก็เบิกความตอบคำถามค้านว่าจำเลยได้เข้าไปอยู่บ้านพิพาทก่อนที่น้ำเริ่มท่วมเมื่อปลายเดือนตุลาคม 2526 โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2528 ฟ้องโจทก์ที่เรียกค่าจ้างทำของซึ่งมีอายุความ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 165 จึงไม่ขาดอายุความ ส่วนฟ้องเรื่องจำเลยเอาไม้แบบพิพาทไปทำสะพานและเรียกทรัพย์หรือราคาทรัพย์ดังกล่าวคืนนั้น เป็นการที่โจทก์ใช้สิทธิติดตามเรียกเอาทรัพย์คืนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336 ซึ่งไม่มีอายุความบัญญัติห้ามไว้ ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยชอบแล้ว ฎีกาจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงินค่าจ้างทำรั้วพิพาทจำนวน 52,000 บาท ให้แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2526 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์