แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องขอให้แสดงว่าห้างหุ้นส่วนเลิกกันและขอให้ตั้งผู้ชำระบัญชีนั้นเป็นคดีขอให้ปลดเปลื้องทุกข์กำหนดเป็นราคาเงินมิได้ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขศาลชั้นต้นเพียงเล็กน้อย จะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นหุ้นส่วนขอให้ชำระบัญชีจำเลยที่ 1 ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นหุ้นส่วน และว่าเป็นเจ้าของโรงมหรสพแต่ผู้เดียวเมื่อได้ความตามทางพิจารณาว่าจำเลยครอบครองโรงมหรสพในฐานะเป็นผู้จัดการของหุ้นส่วนก็เป็นการสมควรที่จะต้องกล่าวคำวินิจฉัยให้แจ้งชัดตามประเด็นข้อต่อสู้ของจำเลยเองว่า จำเลยครอบครองในฐานะอันใดการกล่าวคำวินิจฉัยเช่นนี้หาใช่เป็นการวินิจฉัยเกินประเด็นไม่
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าห้างหุ้นส่วนสามัญเลิกกันและให้ตั้งผู้ชำระบัญชี ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าห้างหุ้นส่วนเลิกกันแล้วทรัพย์สินของหุ้นส่วนเป็นกรรมสิทธิ์รวมจึงให้บังคับคดีตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1364 โดยให้จัดการประมูลขายหรือขายทอดตลาดทรัพย์สิน แบ่งให้ผู้ถือหุ้นตามส่วนศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า ให้ตั้งผู้ชำระบัญชีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1061,1062,1063 ดังนี้ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขศาลชั้นต้นแต่เพียงเล็กน้อย
ย่อยาว
โจทก์ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกของนายคร้ามฟ้องว่านายคร้ามกับจำเลยและคนอื่น ได้ตกลงเข้าหุ้นส่วนจัดสร้างโรงมหรสพให้เช่าเพื่อหากำไรแต่มิได้จดทะเบียน บัดนี้นายคร้ามวายชนม์ ถือได้ว่าหุ้นส่วนเลิกกันแล้ว จึงขอให้ตั้งผู้ชำระบัญชี
จำเลยที่ 1 ต่อสู้ว่าโรงมหรสพเป็นของจำเลยที่ 1 แต่ผู้เดียวส่วนจำเลยที่ 2-3 รับตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า โรงมหรสพเป็นทรัพย์กรรมสิทธิ์รวมของผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคน ให้จัดการขายเอาเงินมาแบ่งกันระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วน
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ตั้งผู้ชำระบัญชีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1061, 1062, 1063
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้เป็นเรื่องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์กำหนดเป็นราคาเงินมิได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขศาลชั้นต้นแต่เพียงเล็กน้อย จะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้