แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา277วรรคสามมีอัตราโทษจำคุกตลอดชีวิตแม้จำเลยจะให้การรับสารภาพศาลก็ยังต้องฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา176วรรคแรกข้อเท็จจริงว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่จึงยังไม่ยุติเมื่อจำเลยอุทธรณ์ว่าจำเลยกระทำชำเราโดยมิได้ใช้อาวุธแต่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยในปัญหานี้คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์จึงไม่ชอบศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยปัญหานี้โดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยในปัญหาดังกล่าวอีกได้
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง ขอให้ ลงโทษ จำเลย ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277,91, 33 ริบ มีด หวดหญ้า ของกลาง
จำเลย ให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย มี ความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 277 วรรคแรก และ วรรคสาม เรียง กระทง ลงโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐาน กระทำ ชำเรา เด็ก หญิง อายุไม่เกิน สิบ ห้า ปี จำคุก กระทง ละ 4 ปี รวม 2 กระทง จำคุก 8 ปีฐาน กระทำ ชำเรา เด็ก หญิง อายุ ไม่เกิน สิบ ห้า ปี โดย ใช้ อาวุธ วางโทษจำคุก ตลอด ชีวิต ลดโทษ ให้ กึ่งหนึ่ง ทุกกระทง ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 ประกอบ มาตรา 53 รวม จำคุก จำเลย 29 ปี ริบของกลาง
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษายก อุทธรณ์
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า โจทก์ ฟ้อง ขอให้ ลงโทษ จำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคสาม ซึ่ง ระวางโทษ จำคุกตลอด ชีวิต แม้ จำเลย จะ ให้การรับสารภาพ ศาล ยัง ต้อง ฟัง พยานโจทก์จนกว่า จะ พอใจ ว่า จำเลย ได้ กระทำผิด จริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 วรรคแรกข้อเท็จจริง ว่า จำเลย กระทำ ความผิด ตาม ฟ้อง หรือไม่ จึง ไม่ ยุติ และจำเลย อุทธรณ์ ใน ปัญหา ดังกล่าว ได้ ใน ชั้นอุทธรณ์ จำเลย ได้ อุทธรณ์ปัญหา ว่า จำเลย ได้ กระทำ ชำเรา ผู้เสียหาย โดย ไม่ได้ ใช้ อาวุธ ต่อศาลอุทธรณ์ ภาค 2 แต่ ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 ไม่รับ วินิจฉัย คำพิพากษาของ ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 จึง ไม่ชอบ แต่ เพื่อ ความ รวดเร็ว ศาลฎีกา เห็นสมควรวินิจฉัย ปัญหา นี้ ไป เลย ไม่ต้อง ย้อนสำนวน ไป ให้ ศาลอุทธรณ์ ภาค 2วินิจฉัย ใน ปัญหา ดังกล่าว อีก แล้ว วินิจฉัย ข้อเท็จจริง ว่า จำเลยกระทำ ชำเรา ผู้เสียหาย โดย ใช้ อาวุธ
พิพากษายก คำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 ให้ บังคับคดี ไป ตามคำพิพากษา ของ ศาลชั้นต้น