แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปลงศพผู้ตายที่ตายเพราะจำเลยทำละเมิดนั้น พอที่จำเลยเข้าใจได้แล้ว หาจำต้องบรรยายว่าเป็นค่าอะไรเท่าใดด้วยไม่ เพราะเป็นเพียงรายละเอียดเท่านั้น และโจทก์มีสิทธิเรียกค่าปลงศพ ค่าขาดไร้อุปการะในการศึกษาล่วงหน้าได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างขับรถยนต์โดยสารของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นนิติบุคคล เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2501 จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ไปในทางการที่จำเลยที่ 2 จ้าง ด้วยความประมาทแซงรถยนต์ประจำทางคันอื่นในระยะคับขันด้วยความเร็วสูงพอดีรถยนต์ประจำทางของเทศบาลเมืองนนทบุรีสวนทางมา จำเลยที่ 1 จึงหักหลบซ้ายโดยกระทันหัน เป็นเหตุให้นายกวางจิ้น ซึ่งโดยสารมาในรถของจำเลยเซเสียหลัก ศีรษะและข้อศอกเอียงออกไปนอกตัวถังโดนกับรถยนต์ประจำทางของเทศบาลเมืองนนทุบรีถึงแก่ความตายทำให้โจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นบิดา โจทก์ที่ 2 เป็นภริยา โจทก์ที่ 3 เป็นบุตร ได้รับความเสียหาย จึงขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายและค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์เป็นเงิน 53,600 บาท
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและชั้นพิจารณา
จำเลยที่ 2 ให้การว่า จำเลยที่ 1 ไม่ประมาท ค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องเคลือบคลุมและสูงเกินควร
ศาลแพ่งเห็นว่า จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ประมาท จำเลยที่ 2 เป็นนายจ้างต้องรับผิด จึงพิพากษาให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าใช้จ่ายในการทำศพผู้ตาย 500 บาท ค่าปลงศพ 3,000 บาท ค่าอุปการะเลี้ยงดูโจทก์ที่ 1 ที่ 2 นับแต่วันนายจิ้นกวางตายถึงวันฟ้องคนละ 1,350 บาท สำหรับค่าอุปการะเลี้ยงดูเป็นรายเดือนจนกว่าโจทก์ทั้งสองจะสิ้นชีวิตนั้น เห็นสมควรให้โจทก์ที่ 1 ที่ 2 ได้รับค่าอุปการะเลี้ยงดูตลอดกาลอีกเพียง 10,000 บาท และให้ค่าอุปการะเลี้ยงดูและเพื่อการศึกษาแก่โจทก์ที่ 3 เป็นเงิน 12,000 บาท เต็มตามขอ
โจทก์อุทธรณ์ขอให้จำเลยใช้ค่าอุปการะเลี้ยงดูให้โจทก์ที่ 1 เดือนละ 400 บาท โจทก์ที่ 2 เดือนละ 500 บาท และขอค่าเลี้ยงดูตลอดกาลสำหรับโจทก์ที่ 1 50,000 บาท โจทก์ที่ 2 60,000 บาท
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์คัดค้านข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ 1 มิได้ประมาทค่าใช้จ่ายในการทำศพ 3,000 บาท ไม่ปรากฏรายการว่าอะไรบ้างเป็นการเคลือบคลุม โจทก์ที่ 1 ที่ 2 ต่างมีอาชีพและรายได้ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดจ่ายค่าอุปการะ
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ตามข้อเท็จจริง จำเลยที่ 1 ไม่ประมาทแม้จำเลยที่ 1 จะมิได้อุทธรณ์ด้วยก็ได้รับผลเพราะเป็นหนี้ร่วมพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 ประมาทจริงดังฟ้องจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นนายจ้างต้องรับผิดร่วมด้วย สำหรับค่าเสียหายนั้นเห็นว่าค่าทำศพผู้ตายศาลแพ่งให้ 500 บาท เต็มตามโจทก์ขอจำเลยไม่อุทธรณ์เป็นอันยุติ ส่วนค่าปลงศพผู้ตาย 3,000 บาทที่จำเลยอุทธรณ์คัดค้านว่าโจทก์ไม่ระบุให้ละเอียดว่าจะใช้จ่ายเป็นค่าอะไรบ้างเป็นฟ้องเคลือบคลุมนั้น เห็นว่า โจทก์ระบุว่าเป็นค่าใช้จ่ายในการปลงศพ ก็พอที่จำเลยจะเข้าใจได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องระบุลงไปว่าเป็นค่าอะไรเท่าใด เพราะเป็นรายละเอียด ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม ที่จำเลยคัดค้านต่อไปว่ายังไม่แน่ว่าโจทก์จะปลงศพผู้ตายหรือไม่นั้น ก็เห็นว่า โจทก์มีสิทธิเรียกร้องค่าปลงศพตามประเพณีล่วงหน้าได้ ที่ศาลแพ่งกำหนดค่าปลงศพให้โจทก์ 3,000 บาทพอสมควรแก่ภาวะค่าครองชีพในปัจจุบันแล้ว สำหรับค่าสินไหมทดแทนในการขาดความอุปการะเลี้ยงดูนั้น เห็นควรให้โจทก์ที่ 1 ที่ 2 รับจากวันนายจิ้นกวางตายถึงวันฟ้องรวม 4,500 บาท และให้ได้รับค่าสินไหมทดแทนหลังจากวันฟ้องคือ โจทก์ที่ 1 ได้ 12,000 บาทให้โจทก์ที่ 2 ได้ 20,000 บาท และโจทก์ที่ 3 ซึ่งศาลแพ่งให้เต็มตามขอ 12,000 บาท ซึ่งจำเลยอุทธรณ์คัดค้านว่าขณะนี้โจทก์ที่ 2 อายุ 2-3 ขวบยังไม่ได้รับการศึกษา จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องนั้น เห็นว่าแม้โจทก์ที่ 3 ยังมิได้เข้ารับการศึกษาก็ดี ก็มีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเพื่อการศึกษาในอนาคตจากผู้ทำละเมิดให้โจทก์ขาดความอุปการะเลี้ยงดูได้ที่ศาลแพ่งกำหนดค่าสินไหมทดแทนให้ 12,000 บาทนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นสมควรแก้ไข
พิพากษากลับ ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์รวมเป็นเงิน 52,000 บาท