แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
มีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองและจำหน่ายเฮโรอีนนั้นให้แก่ผู้อื่นด้วยเป็นความผิดสองกระทง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองหนัก 1.16 กรัม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรี และจำหน่ายเฮโรอีนดังกล่าวให้แก่ผู้อื่น ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2465 ฯลฯ
จำเลยให้การรับว่ามีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจริงแต่ปฏิเสธในข้อหาฐานจำหน่ายเฮโรอีน
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยฐานมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2504 มาตรา 7 มีกำหนด1 ปี กระทงหนึ่ง ลงโทษจำคุกฐานจำหน่ายเฮโรอีนตามมาตรา 6 มีกำหนด 5 ปีอีกกระทงหนึ่ง โทษฐานมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก6 เดือน โทษฐานจำหน่ายเฮโรอีนลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 3 ปี 4 เดือนรวมเป็นจำคุก 3 ปี 10 เดือน ริบของกลาง
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า พยานโจทก์ไม่พอฟังว่าจำเลยจำหน่ายเฮโรอีนพิพากษาแก้เป็นว่าให้ยกฟ้องโจทก์ฐานจำหน่ายเฮโรอีน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยได้ขายเฮโรอีนที่จำเลยมีไว้ในความครอบครองให้แก่ผู้อื่นด้วยจริง (ตามทางนำสืบปรากฏว่าขณะจับจำเลยได้ ไม่ได้เฮโรอีนอื่นจากจำเลยอีก) พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่าจำเลยมีความผิดฐานจำหน่ายเฮโรอีนตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2465 มาตรา 20 ทวิ, 20 ตรี พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 4)พ.ศ. 2504 มาตรา 6, 7 ส่วนโทษและการบังคับคดีให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น