แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จำเลยแจ้งความว่าโจทก์ได้สมคบกับพวกจ้างคนให้ไปยิงจำเลยเป็นการที่จำเลยกระทำตามกฎหมาย เพื่อให้เจ้าพนักงานตำรวจสืบสวนจับกุมโจทก์กับพวกมาดำเนินคดีและเพื่อขอให้ตำรวจช่วยคุ้มครองความปลอดภัยแก่ตัวจำเลยเองด้วยและแม้ว่าจำเลยจะไปเล่าให้คนอื่นฟังเพื่อให้ช่วยสอบถามโจทก์ว่าเป็นความจริงไม่ ทั้ง ๆ ที่ได้แจ้งความไว้ แล้วก็เป็นเรื่องที่จำเลยมีความชอบธรรมที่จะแสดงหาพยานหลักฐานมาฟ้องร้องโจทก์ได้ จำเลยมิได้มีเจตนาใส่ความโจทก์เพื่อให้เสียชื่อเสียง การกระทำของจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยบังอาจใส่ความหมิ่นประมาทโจทก์ ขอให้ลงโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๒๖ ปรับจำเลย ๒๐๐ บาท
โจทก์จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าที่จำเลยแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจ ว่าโจทก์ได้สมคบกับพวกอีกสามคนจ้างนายอุ่น พานเมืองให้ไปยิงจำเลยให้ตายนั้นเป็นการที่จำเลยกระทำตามกฎหมายเพื่อให้เจ้าพนักงานตำรวจสืบสวนจับกุมโจทก์กับพวกมาดำเนินคดี และเพื่อขอให้ตำรวจช่วยคุ้มครองความปลอดภัย แก่ตัวจำเลยเองด้วย จำเลยจึงไม่มีความผิดแต่ประการใด
ส่วนที่จำเลยเอาข้อความไปเล่าให้นายปุ้ยและนายหยู่ฟัง ก็เพื่อให้นายปุ้ยนายหยู่ช่วยสอบถามโจทก์ว่าเป็นความจริงหรือไม่ เพราะคนทั้งสองนี้ชอบพอคุ้นเคยกับโจทก์ดี ที่โจทก์ฎีกาว่าเรื่องนี้จำเลยได้ร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานไว้แล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะนำเรื่องนี้ไปเล่าให้ผู้อื่นฟังอีกเพราะนายปุ้ยนายหยู่ไม่มีหน้าที่จะมาป้องกันภยันตรายให้แก่จำเลยได้นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าถึงแม้จำเลยจะได้แจ้งความไว้แล้ว ก็ดี จำเลยก็มีความชอบธรรมที่จะแสวงหาพยานหลักฐานมาฟ้องร้องโจทก์ได้ จำเลยจึงขอให้นายปุ้ยนายหยู่ช่วยสอบถามโจทก์เพื่อแสวงหาความจริง จำเลยมิได้เจตนาใส่ความโจทก์เพื่อให้เสียชื่อเสียง การกระทำของจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
พิพากษายืนให้ยกฎีกาโจทก์