แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีที่ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องกับศาลชั้นต้นว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายบทเดียวกันเป็นแต่ใช้ดุลพินิจในการลงโทษหนักขึ้นและลดโทษฐานปราณีน้อยลงแต่ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปีดังนี้ เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกสมคบกันฉุดคร่าอนาจาร นางสาวลียะและจำเลยที่ 1 ได้บังอาจขู่เข็ญกระทำชำเรา ขอให้ลงโทษ
แรกจำเลยปฏิเสธ เมื่อสืบพยานโจทก์แล้ว 6 คน จำเลยจึงถอนคำให้การเดิม รับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้ง 3 มีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 276, 63 ให้จำคุกคนละ 6 เดือน และนายเก็ตจำเลยมีความผิดตามมาตรา 243 อีกด้วย ให้จำคุก 1 ปี รวมเป็น 1 ปี 6 เดือน ลดตามมาตรา 59กึ่งคงจำคุกนายเก็ต 9 เดือน จำคุกนายม้วน นายทองคนละ 3 เดือน
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยหนักขึ้นทั้งไม่ควรลดโทษจำเลยถึงกึ่งหนึ่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้จำคุกจำเลยทั้ง 3ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 276 คนละ 1 ปี และจำคุกนายเก็ตจำเลยตามมาตรา 243 อีก 3 ปี ลดตามมาตรา 59 หนึ่งในสาม คงจำคุกนายเก็ต2 ปี 8 เดือน และจำคุกนายม้วน นายทองคนละ 8 เดือน
นายเก็ตจำเลยฎีกาโดยอ้างว่าศาลอุทธรณ์แก้ไขมาก จึงฎีกาในข้อเท็จจริงได้และขอให้ศาลลงโทษเบากว่าศาลอุทธรณ์
ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้ศาลอุทธรณ์คงเห็นพ้องกับศาลชั้นต้นว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายบทเดียวกัน เป็นแต่ใช้ดุลพินิจในการลงโทษหนักขึ้นและลดโทษฐานปราณีน้อยลง แต่ก็ลงโทษจำคุกนายเก็ตจำเลยไม่เกิน 5 ปี ดังนี้ เป็นการแก้ไขเพียงเล็กน้อย ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
พิพากษายืน