คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 907/2486

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าหนี้ยึดสินบริคนห์ระหว่างจำเลยกับสามีสามีร้องขัดทรัพย์อ้างว่านิติกัมที่ภรรยาทำเปนโมคียะ ไม่ผูกพันสินบริคนห์สาลสั่งถอนการยึดไปตามคำร้องขัดทรัพย์ เจ้าหนี้มาฟ้องขอแยกสินบริคนห์ระหว่างสามีภรรยานั้นไหม่ได้ ไม่เปนฟ้องซ้ำ
เจ้าหนี้ซึ่งขอแยกสินบริคนห์ของลูกหนี้ตาม ม. 1483 นั้นไม่จำต้องขอขนะยึดทรัพย์ของลูกหนี้ แม้สาลไห้ถอนการยึดแล้วก็ขอได้
ไนกรนีที่ขอแยกสินบริคนห์ระหว่างสามีภรรยาเพื่อไช้หนี้ ถ้าจำเลยต่อสู้ว่าขายไห้คนพายนอกไปแล้ว ก็ต้องพิจารนาว่าจิงหรือไม่ เพราะถ้าจิงก็ไม่ไช่สินบริคนห์จะขอแยกไม่ได้.

ย่อยาว

คดีแรกสาลชั้นต้นพิพากสาไห้จำเลยที่ ๑ และ ๒ ซึ่งเปนภรรยาจำเลยที่ ๓ และ ๔ ไช้หนี้เงินกู้แก่โจท ๆ จึงยึดที่นาจำเลยที่ ๓ สามีจำเลยที่ ๑ และจำเลยที่ ๔ สามีจำเลยที่ ๒ ร้องขัดทรัพย์ว่านารายนี้เปนสินบริคนห์ระหว่างจำเลยที่ ๑ กับที่ ๓ และจำเลยที่ ๒ กับที่ ๔ จำเลยที่ ๑,๒ ทำสัญญากู้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากจำเลยผู้เปนสามี ขอบอกล้างนิติกัมสาลชั้นต้นเห็นว่าเปนจิงดังคำร้องขัดทรัพย์จึงไห้ถอน โจทจึงมาฟ้องคดีขอไห้แยกสินบริคนห์เพื่อเอาไปไช้หนี้
สาลชั้นต้นพิจารนาตามคำที่คู่ความแถลงรับและสั่งงดสืบพยานทั้งสองฝ่ายแล้วพิพากสาไห้แบ่งนาสินบริคนห์รายนี้
จำเลยอุธรน์สาลอุธรน์พิพากสายืนแต่มีความเห็นแย้งว่า ควนยกฟ้อง
จำเลยดีกา สาลดีกาวินิฉัยว่า ๑ ที่จำเลยว่าโจทฟ้องซ้ำตาม ป.ว.พ.ม. ๑๔๘ สาลดีกาเห็นว่าไนคดีเรื่องก่อนประเด็นที่พิพาทกันมีสัญญากู้เงินที่โจทฟ้องผูกพันสินบริคนห์ระหว่างจำเลยหรือไม่ประเด็นไนคดีนี้มีว่า สัญญานั้นผูกพันจำเลยซึ่งเปนภรรยาไม่มีสินส่วนตัว โจทจะขอแยกสินบริคนห์เพื่อเอกส่วนของภรรยาชำระหนี้ได้หรือไม่ ประเด็นไนคดีก่อนกับไนคดีนี้ไม่เหมือนกัน จึงเปนฟ้องซ้ำ
๒. จำเลยว่าโจทยึดสินบริคนหืรายพิพาทเพื่อเอกขายทอดตลาดชำระหนี้ หากโจทประสงค์จะขอแยกสินบริคนห์ ก็ต้องขอแยกไนขนะที่ยึดนั้น บัดนี้สาลตัดสินไห้ถอนการยึดไปแล้ว โจทจะมาขอแยกสินบริคนห์อีก สินบริคนห์อีกเปนสองครั้งสองหนไม่ได้ สาลดีกาเห็นว่ากดหมายที่ไห้สิทธิเจ้าหนี้ขอแยกสินบริคนห์ไม่ได้กำหนดข้อจำกัดดังจำเลยว่า
๓. ที่จำเลยว่า นาสินบริคนห์โฉนดที่ ๕๖๘๐ จำเลยได้โอนขานแก่บุคคลพายนอกไปแล้ว จะบังคับแก่นาแปลงนี้ไม่ได้นั้นสาลดีกาเห็นว่า หากฟังข้อเท็ดจิงดังจำเลยดีกานารายนี้ก็ไม่เปนสินบริคนห์ต่อไป แต่สาลชั้นต้นยังไม่ได้สืบพยานไนประเด็นข้อนี้ สาลดีกาก็ชี้ขาดข้อเท็ดจิงไม่ได้จึงพิพากสาไห้ยกคำพิพากสาสาลล่างทั้งสองสาลไห้สาลชั้นต้นดำเนินการพิจารนาประเด็นพข้อพิพาทแล้วพิพากสาไหม่ตามรุปความ.

Share