คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 906/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยนำส่งสำเนาคำร้องขอให้ไต่สวนคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาใหม่ให้โจทก์ภายใน 7 วัน มิฉะนั้นถือว่าทิ้งคำร้อง จำเลยมิได้นำส่ง เป็นการเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนดถือได้ว่าจำเลยทิ้งคำร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174 (2) แม้จำเลยจะมิได้จงใจทิ้งคำร้องก็ไม่มีกฎหมายให้ศาลยกขึ้นพิจารณาใหม่ได้
จำเลยกล่าวในคำร้องขอขยายระยะเวลาวางเงินและในฎีกาว่าขอให้ศาลกรุณาสั่งขยายระยะเวลาการวางเงินที่จำเลยต้องเสียแทนโจทก์และค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ต่อไป ดังนี้ หาใช่คำร้องขอขยายระยะเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ซึ่งเป็นเรื่องที่จะทำได้เมื่อมีพฤติการณ์พิเศษไม่ แต่เป็นเรื่องขอให้ศาลฎีกาใช้อำนาจทั่วไปที่มีอยู่กำหนดเวลาชำระค่าธรรมเนียมให้ใหม่

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องให้จำเลยโอนกรรมสิทธิที่ดินและรับเงินค่าที่ดินที่ค้างอยู่ หากจำเลยไม่โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินก็ให้จำเลยคืนเงินทั้งหมดและชำระค่าเสียหายศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงิน ๔๗,๐๐๐ บาทพร้อมดอกเบี้ยให้โจทก์ จำเลยยื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยนำส่งสำเนาคำร้องภายใน ๗ วัน มิฉะนั้นถือว่าทิ้งคำร้อง จำเลยไม่นำส่งภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดศาลชั้นต้นจึงสั่งว่า จำเลยทิ้งคำร้องขออุทธรณ์อย่างอนาถา ให้จำเลยนำค่าฤชาธรรมเนียมมาวางศาลภายใน ๓ วันมิฉะนั้นถือว่าไม่ติดใจอุทธรณ์ จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นไต่สวนว่า จำเลยมิได้จงใจทิ้งคำร้อง ขอให้ศาลไต่สวนคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาใหม่ และขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมและค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องทั้งสองฉบับ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยนำค่าฤชาธรรมเนียมที่ใช้คืนโจทก์และค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์มาวางศาลภายในกำหนด ๗ วันนับแต่วันทราบหรือถือว่าได้ทราบคำสั่งนี้ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำสั่งศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกาและขอขยายระยะเวลาวางเงิน
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ศาลชั้นต้นได้สั่งให้จำเลยนำส่งสำเนาคำร้องขอให้ไต่สวนคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาใหม่ให้โจทก์ภายใน ๗ วัน มิฉะนั้นถือว่าทิ้งคำร้อง ปรากฏว่าจำเลยมิได้นำส่ง ก็เป็นการเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนด จึงเป็นการทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา๑๗๔ (๒) ที่จำเลยอ้างว่าจำเลยไม่จงใจทิ้งคำร้องนั้นเห็นว่ากรณีจำเลยมิได้จงใจทิ้งคำร้องนั้นไม่มีกฎหมายให้ศาลยกขึ้นพิจารณาใหม่ได้ ที่ศาลชั้นต้นสั่งว่า ไม่มีเหตุผลที่จะต้องทำการไต่สวนอีกให้ยกคำร้องจึงชอบแล้ว
สำหรับการขยายระยะเวลาให้จำเลยนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมและค่าขึ้นศาลมาวางศาลนั้น จำเลยกล่าวในคำร้องขอขยายระยะเวลาวางเงินและในฎีกาว่า ขอให้กรุณาสั่งขยายระยะเวลาการวางเงินที่จำเลยต้องเสียแทนโจทก์ และค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ต่อไป เห็นว่าแม้ในฎีกาของจำเลยจะเรียกว่าขอขยายระยะเวลา แต่คงไม่ได้หมายความถึงการขยายระยะเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๒๓ ซึ่งเป็นเรื่องที่จะทำได้เมื่อมีพฤติการณ์พิเศษ จำเลยมีความประสงค์เพียงว่าขอให้ศาลฎีกาใช้อำนาจทั่วไปที่มีอยู่กำหนดเวลาชำระค่าฤชาธรรมเนียมให้ใหม่ด้วย ฯลฯ
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาให้เป็นพับ หากจำเลยติดใจจะอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นต่อไป ก็ให้นำค่าฤชาธรรมเนียมและค่าขึ้นศาลมาชำระต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด ๑๕ วัน นับแต่วันฟังคำพิพากษานี้.

Share