แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยกู้เงินโจทก์ไปซื้อรถยนตร์แล้วโจทก์ยอมรับโอนรถยนต์จากจำเลยดังนี้ เท่ากับโจทก์ยอมรับชำระหนี้อย่างอื่นแทนหนี้สินระหว่างโจทก์จำเลยตามหนังสือสัญญากู้เงินย่อมระงับสิ้นไป แม้หนังสือสัญญากู้เงินจะอยู่กับโจทก์ก็นำมาฟ้องไม่ขึ้น
ย่อยาว
โจทย์ฟ้องว่า จำเลยได้ทำหนังสือสัญญากู้เงินโจทก์ไป ๒๕,๐๐๐ บาท จำเลยผิดนัดไม่ชำระต้นเงินและดอกเบี้ยจึงขอให้จำเลยชำระต้นเงินกู้และดอกเบี้ย ๓๔,๘๔๓ บาท
จำเลยต่อสู้ว่า ได้กู้เงินโจทก์ไปจริงตามสำเนาสัญญาท้ายฟ้อง แต่เงินรายนี้จำเลยได้ใช้ให้โจทก์แล้วโดยจำเลยได้ให้บริษัทนาครพาณิชยจำกัด โอนรถยนต์ด็อดจ์เลขหมายทะเบียน ๐๐๙๓ ซึ่งจำเลยได้ซื้อจากบริษัทนาครพาณิชจำกัดโดย ก.วิธีผ่อนส่งให้แก่โจทก์ ถือได้ว่าโจทก์ยอมรับชำระหนี้อย่างอื่นแทนการชำระหนี้ที่ได้ตกลงกับไว้หนี้นั้นเป็นอันระงับสิ้นไป ตาม ป.พ.พ.ม. ๓๒๑ แม้โจทก์จะมิได้เวนคืนสัญญากู้ให้จำเลยก็ดี แต่การชำระหนี้รายนี้มีหนังสือโต้ตอบกันเป็นหลักฐาน ย่อมเป็นการเลิกล้างเอกสารกู้ได้ตาม ม.๖๕๓ วรรค ๒
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยได้ทำหนังสือสัญญากู้เงินโจทก์ครั้งเดียวเพื่อชำระค่าเช่าซื้อรถยนต์ด๊อดจ์แก่บริษัทพาณิชย์จำกัดแทนจำเลย และจำเลยได้โอนรถยนต์ที่จำเลยเช่าซื้อให้แก่โจทก์เป็นการชำระหนี้ รายที่โจทก์ชำระค่าเช่าซื้อรถยนต์แทนจำเลย หนี้สินระหว่างโจทก์จำเลยเป็นอันระงับ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า หนี้เงินกู้ตามหนังสือสัญญากู้ที่โจทก์นำมาฟ้องนี้เป็นหนี้เงินกู้ที่โจทก์ทดรองชำระราคารรถยนต์แทนจำเลย หาใช่เงินกู้อีกจำนวนหนึ่งไม่ ในเวลาต่อมา โจทก์จำเลยได้ตกลงกันโอนรถยนตร์ ซึ่งตกเป็นกรรมสิทธิของจำเลยตามสัญญาเช่าซื้อให้แก่โจทก์ แล้วจำเลยได้ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์คันนี้จากโจทก์เป็นเงินราคา ๓๑,๐๐๐ บาท เท่ากับจำนวนเงินที่โจทก์ทดรองแทนจำเลยไป ๒๖,๐๐๐ บาท บวกดับดอกเบี้ยและค่านายหน้า หนี้เดิมจึงเป็นอันระงับ โจทก์หมดสิทธิฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้ถึงแม้สัญญากู้อยู่ที่โจทก์และยังมิได้ปฏิบัติ ตามที่ได้บัญญัติไว้ใน ป.พ.พ.ม. ๖๕๓ วรรค ๒ ก็ตาม โจทก์ก็มีสิทธิใหม่ตามสัญญาเช่าซื้อเท่านั้น พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ฝ่ายจำเลยมีพยานบุคคลเบิกความประกอบพยานเอกสารหลายฉบับฟังได้ว่าจำเลยได้ทำหนังสือสัญญากู้เงินครั้งเดียว เพื่อนำไปเช่าซื้อรถยนต์ และได้ชำระหนี้ให้โจทก์เสร็จสิ้น แต่โจทก์ยังมิได้คืนหนังสือสัญญากู้ให้จำเลยไม่ได้ทำหนังสือสัญญากู้เงินโจทก์อีกเลย โจทก์จะทำหนังสือกู้เงินที่โจทก์ยอมรับชำระหนี้อย่างอื่นจากจำเลยมาฟ้องจำเลยอีกหาได้ไม่ แม้หนังสือสัญญากู้จะอยู่กับโจทก์ โดยโจทก์มิได้คืนให้จำเลยก็ตาม หนี้สินระหว่างโจทก์จำเลยตามหนังสือสัญญากู้เงินที่โจทก์ยึดไว้ และนำมาฟ้องนี้ได้ระงับไปตาม ป.พ.พ.ม. ๓๒๑ แล้ว
พิพากษายืน