แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ในหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีของโจทก์ระบุว่ามอบอำนาจให้ช. ฟ้องคดีแทนแม้ช. มิได้ลงลายมือชื่อในช่องผู้รับมอบอำนาจก็ต้องถือว่าช. เท่านั้นที่ได้รับมอบอำนาจจากโจทก์ให้ฟ้องจำเลยป. ซึ่งลงลายมือชื่อในช่องผู้รับมอบอำนาจในหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวหามีอำนาจฟ้องไม่.
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่า โจทก์มอบอำนาจให้นายชัยชาญประยุทธพงศ์ เป็นผู้ฟ้องจำเลยคดีนี้ ผู้ลงลายมือชื่อในคำฟ้องมิได้รับมอบอำนาจจากโจทก์ให้ฟ้องคดี เป็นฟ้องที่ไม่มมีลายมือชื่อโจทก์ไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(7) และมาตรา 161 พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่า โจทก์มิได้มอบอำนาจให้นางประวินฟ้องจำเลย นางประวินจึงไม่มีอำนาจฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยในผล พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “โจทก์ฎีกาว่า โจทก์มอบอำนาจให้นางประวินทรงบรรดิษฐ์ ฟ้องคดีแทนโจทก์ แต่ในหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.1กลับมีข้อความว่า “…โดยหนังสือฉบับนี้ ข้าพเจ้าบริษัทนิรมิตสากลจำกัด โดย นางมาลินี จิระมานะพันธ์ กรรมการผู้กระทำการแทนบริษัท ฯโจทก์…ขอมอบอำนาจให้นายชัยชาญ ประยุทธพงศ์ ฟ้องนางยุรีศิริสัมพันธ์ จำเลย…” ใจความในหนังสือมอบอำนาจชัดเจนไม่มีทางแปลเป็นอย่างอื่นได้ แม้นายชัยชาญ ประยุทธพงศ์ จะมิได้ลงลายมือชื่อในช่องผู้รับมอบอำนาจ ก็ต้องถือว่านายชัยชาญ ประยุทธพงศ์ เท่านั้นที่ได้รับมอบอำนาจจากโจทก์ให้ฟ้องจำเลย นางประวินไม่มีอำนาจฟ้องคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.