คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 902/2542

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทั้งสองฎีกาขอให้ลงโทษสถานเบาโดยรอการลงโทษจำคุก จำเลยเท่านั้น ฎีกาในส่วนของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคลจึงมิได้โต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลล่างทั้งสองที่ลงโทษปรับจำเลยที่ 1 เป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้ง ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรคสองประกอบมาตรา 225 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยในปัญหาเรื่องลงโทษปรับจำเลยที่ 1

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
ระหว่างพิจารณา นายสุทีป ภักดี ผู้เสียหายขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ศาลชั้นต้นอนุญาต
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 สำหรับจำเลยที่ 1 ให้ปรับ 40,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 2 ให้จำคุก 10 เดือน จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงปรับจำเลยที่ 1 เป็นเงิน 20,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 5 เดือน หากจำเลยที่ 1 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้วางโทษจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 8 เดือน ลดโทษให้กึ่งหนึ่งแล้วคงจำคุกจำเลยที่ 2 ไว้ 4 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองฎีกาขอให้รอการลงโทษ โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยทั้งสองฎีกาเพียงขอให้ลงโทษสถานเบาโดยรอการลงโทษจำคุกจำเลยเท่านั้น ดังนั้นฎีกาในส่วนของจำเลยที่ 1 จึงมิได้โต้แย้งคัดค้านคำพิพากษา ศาลล่างทั้งสองที่ลงโทษปรับจำเลยที่ 1 เป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้งไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรคสองประกอบมาตรา 225 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ คงมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ 2 ว่าสมควรรอการลงโทษให้จำเลยที่ 2หรือไม่ และเห็นว่ายังไม่สมควรรอการลงโทษให้ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3มีคำพิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย
พิพากษายืน

Share