คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 898/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งอนุญาตให้จำเลยไม่ต้องไปฟังการพิจารณาและการสืบพยานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 172 ทวิ เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน
เมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาชี้ขาดประเด็นสำคัญในคดีแล้วโจทก์ร่วมอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณา โดยมิได้อุทธรณ์คำพิพากษามาด้วย และไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์คำพิพากษาไว้ อุทธรณ์ของโจทก์ร่วมย่อมต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295, 83 จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง โจทก์ร่วมอุทธรณ์ว่า ตามที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยไม่ไปฟังการพิจารณาและการสืบพยาน ยังไม่มีเหตุอันสมควร ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 172 จึงเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาใหม่ให้ถูกต้อง แล้วพิพากษาคดีใหม่

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า โจทก์ร่วมอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196 ไม่รับอุทธรณ์

โจทก์ร่วมอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์ร่วมมิได้อุทธรณ์คำพิพากษาในประเด็นสำคัญเรื่องทำร้ายผู้อื่นมาด้วย จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196 ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 233/2481 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดพังงา โจทก์นายปาน รัตนไชย จำเลย ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของโจทก์ร่วม

โจทก์ร่วมฎีกาต่อมา

ศาลฎีกาได้ตรวจพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยไม่ต้องไปฟังการพิจารณาและสืบพยานโจทก์ ตามอำนาจของศาลชั้นต้นที่มีอยู่ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 172 ทวิ (1) คำสั่งของศาลชั้นต้นข้อนี้เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน ที่โจทก์ร่วมอุทธรณ์ว่าศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยไม่ไปฟังการพิจารณาและการสืบพยานโจทก์ยังไม่มีเหตุอันสมควร ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 172จึงเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ให้ถูกต้อง แล้วพิจารณาคดีใหม่ เช่นนี้จึงเป็นอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณา เมื่อโจทก์ร่วมมิได้อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้นในประเด็นสำคัญของคดีมาด้วย และทั้งไม่ปรากฏว่ามีอุทธรณ์คำพิพากษาของโจทก์และจำเลยไว้แล้ว ดังนี้ อุทธรณ์ของโจทก์ร่วมจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 196 ศาลอุทธรณ์สั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ร่วมชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ร่วมฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืนตามคำสั่งของศาลชั้นต้น

Share