คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 894/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ได้รับเงินค่าจ้างล่วงหน้าจากกรมทางหลวงในการรับเหมาก่อสร้างทางและโจทก์มีรายได้อย่างอื่นอีก แต่โจทก์ไม่ได้ยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีการค้าเจ้าพนักงานประเมินจึงแจ้งการประเมินให้โจทก์ชำระภาษีการค้า ภาษีบำรุงเทศบาล เงินเพิ่มและเบี้ยปรับ โจทก์อุทธรณ์ คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์คงวินิจฉัยให้ลดเบี้ยปรับลงบางส่วนปรากฏว่าหลังจากคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์วินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์แล้ว โจทก์ตกลงคืนเงินค่าจ้างล่วงหน้าให้กรมทางหลวงไป ดังนี้ ขณะที่เจ้าพนักงานประเมินและคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ให้โจทก์เสียภาษีการค้านั้น โจทก์กับกรมทางหลวงยังไม่ได้เลิกสัญญากัน และโจทก์ยังไม่ได้ตกลงคืนค่าจ้างล่วงหน้าให้กรมทางหลวง เงินค่าจ้างล่วงหน้าดังกล่าวยังเป็นรายรับของโจทก์ การที่เจ้าพนักงานประเมินและคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ให้โจทก์เสียภาษีการค้าจึงเป็นการประเมินและวินิจฉัยอุทธรณ์ที่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลจะพิพากษาให้เพิกถอนการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ดังกล่าวไม่ได้ แต่ต่อมาเมื่อโจทก์และกรมทางหลวงตกลงเลิกสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างทางกัน และโจทก์ตกลงคืนเงินค่าจ้างล่วงหน้าให้กรมทางหลวงแล้ว โจทก์ก็ไม่ต้องเสียภาษีการค้าในเงินค่าจ้างล่วงหน้าดังกล่าว การประเมินของเจ้าพนักงานประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ที่ให้โจทก์เสียภาษีการค้าในเงินค่าจ้างล่วงหน้าจึงไม่มีผลบังคับให้โจทก์ต้องเสียภาษีการค้าต่อไปอีก ศาลย่อมพิพากษาว่าการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ที่ให้โจทก์เสียภาษีการค้าในเงินค่าจ้างล่วงหน้ารวมทั้งภาษีบำรุงเทศบาล เงินเพิ่ม และเบี้ยปรับ ไม่มีผลบังคับ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เงินค่าจ้างล่วงหน้าที่โจทก์ได้รับจากกรมทางหลวง2 รายการคือ 3,043,120 บาท และ 3,942,085 บาท เป็นเงินที่กรมทางหลวงมอบให้โจทก์ไว้เพื่อให้ปฏิบัติงานตามที่ตกลงรับจ้าง เงินดังกล่าวยังเป็นของกรมทางหลวง โจทก์ไม่มีสิทธินำไปใช้ในกิจการอื่น จึงมิใช่รายรับของโจทก์ที่จะต้องเสียภาษีการค้า ทั้งต่อมาโจทก์และกรมทางหลวงก็ได้เลิกสัญญากันแล้วโดยโจทก์ต้องคืนเงินจำนวนนั้นให้กรมทางหลวง แต่จำเลยได้ประเมินให้โจทก์เสียภาษีการค้าในเงินดังกล่าวจึงไม่ชอบ โจทก์มีรายได้ สำหรับเสียภาษีการค้าเพียง 723,099.59 บาท ซึ่งโจทก์ได้ขอผ่อนผันการเสียภาษีต่อจำเลยแล้ว จำเลยยังให้โจทก์ชำระเบี้ยปรับด้วยจึงไม่ชอบ ขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ โดยให้โจทก์เสียภาษีการค้าประจำเดือนมกราคม 2517 จากรายรับ 723,099.59 บาท กับภาษีบำรุงเทศบาล และเงินเพิ่มตามกฎหมาย

จำเลยให้การว่า การประเมินของเจ้าพนักงานประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ชอบแล้ว โจทก์จะยกเหตุที่กรมทางหลวงเลิกสัญญาหลังการพิจารณาอุทธรณ์สิ้นสุดลงแล้วมาเป็นข้ออ้างให้ศาลยกเลิกการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ไม่ได้

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนการประเมินของเจ้าพนักงานและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ที่ให้โจทก์เสียภาษีการค้าในจำนวนเงินค่าจ้างล่วงหน้า3,043,120 บาท ที่โจทก์ได้คืนให้แก่กรมทางหลวงไป คำขอนอกจากนี้ให้ยก

โจทก์และจำเลยทั้งห้าต่างอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยทั้งห้าฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยทั้งห้าฎีกาว่าที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้เพิกถอนการประเมินของเจ้าพนักงานประเมิน และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ที่ให้โจทก์เสียภาษีการค้าในเงินจำนวน3,043,120 บาท ที่โจทก์ได้รับล่วงหน้าจากกรมทางหลวงในการรับเหมาสร้างทางสายพะเยา – ดอกคำใต้ – เชียงคำ ไม่ชอบนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าขณะที่เจ้าพนักงานประเมินและคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ให้โจทก์เสียภาษีการค้าในเงินจำนวน 3,043,120 บาทนั้น โจทก์และกรมทางหลวงยังไม่ได้ตกลงเลิกสัญญาสร้างทางสายพะเยา – ดอกคำใต้ – เชียงคำ และโจทก์ยังไม่ได้ตกลงคืนเงินค่าจ้างล่วงหน้า 3,043,120 บาท ให้แก่กรมทางหลวงเงินค่าจ้างล่วงหน้าดังกล่าวยังเป็นรายรับของโจทก์ที่เจ้าพนักงานประเมินและคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ให้โจทก์เสียภาษีการค้าในเงินค่าจ้างล่วงหน้า3,043,120 บาท จึงเป็นการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ที่ชอบด้วยกฎหมายจะเพิกถอนการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ไม่ได้ แต่ต่อมาเมื่อโจทก์และกรมทางหลวงตกลงเลิกสัญญาจ้างเหมาสร้างทางหลวงสายพะเยา – ดอกคำใต้ – เชียงคำ และโจทก์ตกลงคืนเงินค่าจ้างล่วงหน้า 3,043,120 บาท ให้กรมทางหลวงแล้ว โจทก์ก็ไม่ต้องเสียภาษีการค้าในเงินค่าจ้างล่วงหน้าดังกล่าว การประเมินของเจ้าพนักงานประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ที่ให้โจทก์เสียภาษีการค้าในเงินจำนวน 3,043,120 บาท จึงไม่มีผลบังคับให้โจทก์ต้องเสียภาษีการค้าต่อไปอีก

พิพากษาแก้เป็นว่า การประเมินของเจ้าพนักงานประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ที่ให้โจทก์เสียภาษีการค้าในเงินจำนวน 3,043,120 บาท รวมทั้งภาษีบำรุงเทศบาลเงินเพิ่มและเบี้ยปรับไม่มีผลบังคับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share