คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8938/2542

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามข้อบังคับของบริษัทกำหนดให้ ส. และผู้ร้องลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัท มีอำนาจกระทำการแทนบริษัท แต่ ส. ขัดขวางและทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อบริษัทและผู้ร้อง โดยไม่ยอมลงลายมือชื่อร่วมกับผู้ร้องในกิจการที่ต้องกระทำในนามบริษัทหลายประการ และข้อบังคับของบริษัทไม่มีวิธีการแก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าว การที่ผู้ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้แทนชั่วคราวของบริษัท โดยให้ผู้ร้องแต่ผู้เดียวลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัทมีอำนาจกระทำการแทนบริษัท เพื่อผู้ร้องจะกระทำกิจการต่าง ๆ ในนามบริษัทได้ อันเป็นการแก้ไขอุปสรรค และข้อขัดข้องของบริษัทมิให้เกิดความเสียหายอีกต่อไป แม้ตามคำร้องขอของผู้ร้องขอจะไม่ใช่กรณีตำแหน่งผู้แทนของบริษัทว่างลงตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 73 บัญญัติไว้แต่ก็ไม่มีบทกฎหมายที่จะยกมาปรับคดีนี้ได้ ทั้งไม่มีจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นในกรณีนี้ต้องอาศัยมาตรา 73 ที่เป็นบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งมาวินิจฉัย และหากได้ความจริงตามคำร้องขอ ศาลก็สามารถตั้งผู้ร้องเป็นผู้แทนชั่วคราวตามบทกฎหมายดังกล่าวได้

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า ผู้ร้องเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทเซ็นทรัลเจมส์ อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด บริษัทดังกล่าวมีกรรมการ 2 คน คือ ผู้ร้องและนายสุมิตร อัศวมงคลพันธุ์ ตามข้อบังคับของบริษัทกำหนดให้นายสุมิตรลงลายมือชื่อร่วมกับผู้ร้องและประทับตราสำคัญของบริษัทมีอำนาจกระทำการแทนบริษัทได้ หลังจากจัดตั้งบริษัทขึ้นแล้วได้ตกลงให้นายสุมิตรเป็นกรรมการผู้จัดการ แต่การดำเนินกิจการโดยนายสุมิตรทำให้บริษัทขาดทุนจนเป็นหนี้บุคคลอื่นจำนวนมาก จึงตกลงให้ผู้ร้องเป็นกรรมการผู้จัดการ เมื่อผู้ร้องเข้าทำหน้าที่กรรมการผู้จัดการได้ตรวจสอบบัญชีพบว่าขณะนายสุมิตรเป็นกรรมการผู้จัดการ ได้สมคบกับบุคคลอื่นยักยอกเงินของบริษัทไป 150,650,032.01 บาท ผู้ร้องจึงได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีแก่นายสุมิตร จากสาเหตุดังกล่าวนายสุมิตรได้ขัดขวางและทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อบริษัทและผู้ร้อง โดยไม่ยอมลงลายมือชื่อร่วมกับผู้ร้องในกิจการที่ต้องกระทำในนามบริษัทอาทิเช่น ไม่ยอมลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คเบิกเงินเพื่อชำระหนี้ค่าสินค้าของบริษัทจ่ายเงินเดือนและเงินโบนัสให้แก่พนักงานของบริษัท ตลอดจนไม่ยอมลงลายมือชื่อในงบดุลหรืองบกำไรขาดทุนประจำปี 2541 ที่บริษัทจะต้องยื่นต่อสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทและกรมสรรพากร ทั้งที่งบดุลหรืองบกำไรขาดทุนดังกล่าวได้รับอนุมัติจากที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นแล้ว เป็นต้น และข้อบังคับของบริษัทไม่มีวิธีการแก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าว หากให้บริษัทอยู่ในสภาพเช่นนี้ต่อไปจะทำให้บริษัทและผู้ถือหุ้นได้รับความเสียหาย จึงขอให้ศาลไต่สวนและมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้แทนชั่วคราวของบริษัทเซ็นทรัลเจมส์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดยให้ผู้ร้องแต่ผู้เดียวลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัทมีอำนาจกระทำการแทนบริษัทได้

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า พฤติการณ์ตามคำร้องขอเป็นกรณีมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นระหว่างกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท จึงเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการให้ที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นถอดถอนกรรมการหรือฟ้องร้องกรรมการผู้ก่อให้เกิดความเสียหาย มิใช่กรณีที่ผู้ร้องจะใช้สิทธิร้องขอต่อศาลตามคำร้องขอ ให้ยกคำร้องขอ

ผู้ร้องอุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาข้อกฎหมายว่า คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องขอชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า ตามคำร้องขอของผู้ร้องเป็นกรณีที่ผู้ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้แทนชั่วคราวของบริษัท โดยให้ผู้ร้องแต่ผู้เดียวลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัทมีอำนาจกระทำการแทนบริษัท เพื่อผู้ร้องจะกระทำกิจการต่าง ๆ ในนามบริษัทได้ อันเป็นการแก้ไขอุปสรรคและข้อขัดข้องของบริษัทมิให้เกิดความเสียหายอีกต่อไป แม้ข้อเท็จจริงตามคำร้องขอของผู้ร้องขอจะไม่ใช่กรณีตำแหน่งผู้แทนของบริษัทว่างลงตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 73 บัญญัติไว้ แต่ก็ไม่มีบทกฎหมายที่จะยกมาปรับคดีนี้ได้ ทั้งไม่มีจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นในกรณีนี้ จึงต้องอาศัยเทียบบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งมาวินิจฉัยคดีนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 4 วรรคสอง และเห็นว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 73 เป็นบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งที่จะนำมาวินิจฉัยคดีนี้ได้ ดังนั้น หากได้ความจริงตามคำร้องขอศาลก็สามารถตั้งผู้ร้องเป็นผู้แทนชั่วคราวตามบทกฎหมายดังกล่าวได้

พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องขอของผู้ร้อง ให้ศาลชั้นต้นรับคำร้องขอไว้พิจารณาและดำเนินการต่อไป แล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำสั่งใหม่

Share