แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีที่บริษัท อ. ฟ้องโจทก์ในความผิดฐานหมิ่นประมาท บริษัท อ. บรรยายฟ้องว่า โจทก์กล่าวหา บริษัท อ. ยื่นเอกสารอันเป็นเท็จเพื่อให้คณะกรรมการฯ เข้าใจเบื้องต้นว่าผลิตภัณฑ์ที่เสนอมีคุณสมบัติครบถ้วนตามประกาศ ทั้งที่ขาดคุณสมบัติและไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การจัดซื้อจัดหาครุภัณฑ์ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 จนเป็นเหตุให้คณะกรรมการฯ ตัดสินว่า ครุภัณฑ์ที่นำเสนอมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนตามที่สำนักคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กำหนด ซึ่งรายละเอียดดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่ประการใด คณะกรรมการฯ ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไม่ได้สั่งการเช่นนั้น และไม่เคยมีคณะกรรมการทั้งของเขตการศึกษาและผู้อำนวยการโรงเรียน ศ. เรียกโจทก์หรือตัวแทนโจทก์เข้าไปชี้แจงรายละเอียดแต่ประการใด การกระทำดังกล่าวของโจทก์เป็นการเต้าข่าวเป็นเท็จประสงค์ต่อผลทำให้บริษัท อ. ได้รับความเสียหายโดยตรง เป็นการใส่ร้ายใส่ความบริษัท อ. ต่อบุคคลที่ 3 อันมีเจตนาทุจริตจงใจทำให้บุคคลภายนอกเห็นว่า ผลิตภัณฑ์ของบริษัท อ. ไม่มีคุณภาพ ซึ่งไม่เป็นความจริง ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ดังนั้น ข้อสำคัญในคดีจึงมีว่า คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานหรือคณะกรรมการสอบราคาของโรงเรียนบางเขตพื้นที่การศึกษาได้ตรวจสอบรายละเอียดของเอกสารและผลิตภัณฑ์ที่บริษัท อ. เสนอ และได้มีการเชิญตัวแทนของบริษัทดังกล่าวมาชี้แจงให้ถ้อยคำจนเป็นที่ประจักษ์ว่าบริษัท อ. ยื่นเอกสารอันเป็นเท็จเพื่อให้คณะกรรมการฯ เข้าใจเป็นเบื้องต้นว่าผลิตภัณฑ์ที่เสนอมีคุณสมบัติครบถ้วนตามประกาศ ทั้งที่ขาดคุณสมบัติอันเป็นเหตุให้บริษัท อ. เสื่อมเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นหรือไม่ การที่จำเลยในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท อ. และในฐานะทนายความโจทก์ เบิกความแต่เพียงว่า บริษัท อ. มีคุณลักษณะครบถ้วนตามที่คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนด จึงได้ซื้อซองประกวดราคา จึงเป็นการเบิกความในภาพรวม ๆ มิได้ระบุเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับซอพต์แวร์หรือผลิตภัณฑ์ตามที่ระบุในเกณฑ์คุณลักษณะซอพต์แวร์สื่อการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ข้อที่ 9 และข้อที่ 10 แต่ประการใด ทั้งยังเป็นการเบิกความถึงขั้นตอนของการซื้อซองประกวดราคาเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในเอกสารหมาย จ.6 ซึ่งเป็นมูลแห่งคดีและแตกต่างจากผลคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเท่านั้น คำเบิกความของจำเลยจึงไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี แม้คำเบิกความของจำเลยจะเป็นเท็จก็ไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จในคดีอาญา
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่า คดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 วรรคสอง จำคุก 1 ปี และปรับ 10,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเบิกความเท็จโดยการกล่าวข้อความว่า “ผู้ซื้อซองประกวดราคาจะต้องมีคุณลักษณะครบถ้วน บริษัทโจทก์มีคุณลักษณะครบถ้วนตามที่คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนด จึงได้ซื้อซองประกวดราคา” และ “ข้าฯ ไม่ทราบว่าบริษัทจำเลยจะได้ยื่นซองประกวดราคาที่โรงเรียนศรีตระกูลวิทยาและโรงเรียนบ้านน้ำเกลี้ยงหรือไม่ แต่บริษัทจำเลยได้รับการคัดเลือกในการประกวดราคาประมาณ 30 ถึง 40 โรงเรียน ในจำนวนทั้งหมด 175 โรงเรียน” สำหรับข้อความหลัง ศาลชั้นต้นเห็นว่าไม่ใช่ข้อสำคัญในคดีหมิ่นประมาทที่บริษัทไอทีเอ็ดดูซอฟต์ จำกัด ฟ้องบริษัทชูธนาไฮเทค จำกัด โจทก์จำเลยไม่อุทธรณ์จึงเป็นที่ยุติ
คดีจึงมีปัญหาในชั้นฎีกาเฉพาะคำเบิกความของจำเลยในข้อความแรกว่าเป็นการเบิกความเท็จในคดีอาญาดังกล่าวหรือไม่ ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้เป็นยุติโดยที่คู่ความมิได้ฎีกาโต้แย้งเป็นอย่างอื่นว่า เมื่อปี 2550 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจัดสรรงบประมาณให้แก่โรงเรียนในสังกัดจัดซื้อซอฟต์แวร์สื่อการเรียนการสอนภาษาอังกฤษที่มีคุณลักษณะเฉพาะตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนด หลังจากโรงเรียนต่าง ๆ ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐานประกาศสอบราคาซอฟต์แวร์สื่อการเรียนการสอนภาษาอังกฤษดังกล่าว ผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์หลายรายยื่นซองสอบราคาซึ่งรวมทั้งบริษัทไอทีเอ็ดดูซอฟต์ จำกัด และโจทก์ วันที่ 27 สิงหาคม 2550 โจทก์มีหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต่าง ๆ ที่โรงเรียนในสังกัดกำลังจัดซื้อซอฟต์แวร์สื่อการเรียนการสอนภาษาอังกฤษดังกล่าวว่าคณะกรรมการสอบราคาของโรงเรียนบางเขตพื้นที่การศึกษาได้ตรวจสอบรายละเอียดของเอกสารและผลิตภัณฑ์ที่บริษัทไอทีเอ็ดดูซอฟต์ จำกัด เสนอ อีกทั้งได้เชิญตัวแทนของบริษัทดังกล่าวมาชี้แจงให้ถ้อยคำจนเป็นที่ประจักษ์ว่าบริษัทไอทีเอ็ดดูซอฟต์ จำกัด ได้ยื่นเอกสารอันเป็นเท็จจริงเพื่อให้คณะกรรมการฯ เข้าใจเป็นเบื้องต้นว่าผลิตภัณฑ์ที่เสนอมีคุณสมบัติครบถ้วนตามประกาศทั้งที่ขาดคุณสมบัติและไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การจัดซื้อ จัดหาครุภัณฑ์ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 จนเป็นเหตุให้คณะกรรมการฯ ตัดสินว่าครุภัณฑ์ที่นำเสนอมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กำหนด ดังมีรายละเอียดต่อไปนี้ (1) ไม่สามารถสำแดงเอกสาร/หลักฐาน/ข้อมูล อันทำให้คณะกรรมการฯ เห็นประจักษ์ได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่เสนอได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ (Certify) จากองค์การ ADL…อันเป็นข้อกำหนดที่ระบุไว้ในคุณสมบัติทั่วไป ข้อที่ 9 (2) ผู้เสนอราคาไม่สามารถแสดงและ/หรือส่งมอบโครงสร้างของเนื้อหา/ข้อมูลกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งหมดในรูปแบบของไฟล์พิเศษที่สามารถนำไปใช้ร่วมกับ Learning Management System (LMS) อื่นที่เป็น Open Source อันเป็นประโยชน์สำหรับในการจัดทำ/สร้างบทเรียนใหม่ได้โดยอิสระโดยไม่ต้องเปิดใช้โปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ที่นำเสนอได้โดยสมบูรณ์อันเป็นข้อกำหนดที่ระบุไว้ในคุณสมบัติทั่วไปข้อที่ 10…จึงขอให้ตรวจสอบ-พิจารณาผล ยกเลิกผลการสอบราคาซื้อครุภัณฑ์ซอฟต์แวร์สื่อการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ วันที่ 25 ตุลาคม 2550 บริษัทไอทีเอ็ดดูซอฟต์ จำกัด ฟ้องโจทก์และนางอัญชัญ กรรมการผู้จัดการบริษัทโจทก์ต่อศาลชั้นต้นข้อหาหมิ่นประมาท โดยกล่าวหาว่าหนังสือที่โจทก์มีถึงผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาดังกล่าวเป็นเท็จและเป็นการใส่ความบริษัทไอทีเอ็ดดูซอฟต์ จำกัดต่อบุคคลที่สามให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ศาลชั้นต้นรับคดีไว้ไต่สวนมูลฟ้องเป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ 2994/2550 วันที่ 20 ธันวาคม 2550 จำเลยในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากบริษัทไอทีเอ็ดดูซอฟต์ จำกัด และในฐานะทนายความโจทก์ในคดีดังกล่าวเบิกความเป็นพยานโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องว่า ผู้ซื้อซองประกวดราคาจะต้องมีคุณลักษณะครบถ้วนตามเอกสารหมาย จ.6 บริษัทไอที เอ็ดดูซอฟต์ จำกัด มีคุณลักษณะครบถ้วนตามที่คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนดจึงได้ซื้อซองประกวดราคา สำหรับเอกสารหมาย จ.6 ที่จำเลยเบิกความถึงในคดีหมิ่นประมาทคือเกณฑ์คุณลักษณะเฉพาะซอฟต์แวร์สื่อการเรียนการสอนภาษาอังกฤษที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนดไว้ซึ่งตรงกับเอกสารหมาย ป.จ.1 ศาลจังหวัดธัญบุรี ในคดีนี้ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่า คดีมีมูล ให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา สำหรับคุณลักษณะเฉพาะของซอฟต์แวร์สื่อการเรียนการสอนภาษาอังกฤษที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนดมีหลายประการ โดยคุณลักษณะข้อ 9 กำหนดว่า เนื้อหาบทเรียนต้องสอดคล้องตามมาตรฐาน SCORM 1.2 เป็นอย่างน้อย โดยต้องได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากองค์กร ADL
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยว่า จำเลยกระทำความผิดฐานเบิกความเท็จในคดีอาญาดังที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยหรือไม่ เห็นว่า คดีที่บริษัทไอทีเอ็ดดูซอฟต์ จำกัดฟ้องโจทก์ในความผิดฐานหมิ่นประมาท บริษัทไอทีเอ็ดดูซอฟต์ จำกัด บรรยายฟ้องว่า โจทก์กล่าวหาบริษัทไอทีเอ็ดดูซอฟต์ จำกัด ยื่นเอกสารอันเป็นเท็จเพื่อให้คณะกรรมการฯ เข้าใจเบื้องต้นว่าผลิตภัณฑ์ที่เสนอมีคุณสมบัติครบถ้วนตามประกาศ ทั้งที่ขาดคุณสมบัติและไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การจัดซื้อจัดหาครุภัณฑ์ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 จนเป็นเหตุให้คณะกรรมการฯ ตัดสินว่าครุภัณฑ์ที่นำเสนอมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กำหนด ซึ่งรายละเอียดดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่ประการใด คณะกรรมการฯ ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไม่ได้มีการสั่งการเช่นนั้นและไม่เคยมีคณะกรรมการทั้งของเขตการศึกษาและผู้อำนวยการของโรงเรียนศรีตระกูลเรียกให้โจทก์หรือตัวแทนโจทก์เข้าไปชี้แจงรายละเอียด แต่ประการใด…การกระทำดังกล่าวของโจทก์ถือเป็นการเต้าข่าวที่เป็นเท็จประสงค์ต่อผลหรือเล็งเห็นผลทำให้บริษัทไอทีเอ็ดดูซอฟต์ จำกัดได้รับความเสียหายโดยตรง…เป็นการใส่ร้ายใส่ความบริษัทไอทีเอ็ดดูซอฟต์ จำกัดต่อบุคคลที่สามอันมีเจตนาทุจริตจงใจทำให้บุคคลภายนอกเห็นว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทไอทีเอ็ดดูซอฟต์ จำกัดไม่มีคุณภาพ ซึ่งไม่เป็นความจริงทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ดังนั้น ข้อสำคัญในคดีจึงมีว่า คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานหรือคณะกรรมการสอบราคาของโรงเรียนบางเขตพื้นที่การศึกษาได้ตรวจสอบรายละเอียดของเอกสารและผลิตภัณฑ์ที่บริษัทไอทีเอ็ดดูซอฟต์ จำกัด เสนอ และได้มีการเชิญตัวแทนของบริษัทดังกล่าวมาชี้แจงให้ถ้อยคำจนเป็นที่ประจักษ์ว่า บริษัทไอทีเอ็ดดูซอฟต์ จำกัด ยื่นเอกสารอันเป็นเท็จเพื่อให้คณะกรรมการฯ เข้าใจเป็นเบื้องต้นว่าผลิตภัณฑ์ที่เสนอมีคุณสมบัติครบถ้วนตามประกาศ ทั้งที่ขาดคุณสมบัติอันเป็นเหตุให้บริษัทไอทีเอ็ดดูซอฟต์ จำกัด เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือไม่ ส่วนข้อความในหนังสือเอกสารหมาย ป.จ.1 ตอนต่อมาเป็นรายละเอียดที่โจทก์แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการฯ ซึ่งเห็นว่า ซอฟต์แวร์หรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทไอทีเอ็ดดูซอฟต์ จำกัด ขาดคุณสมบัติตามเกณฑ์คุณลักษณะเฉพาะซอฟต์แวร์สื่อการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ข้อที่ 9 และข้อที่ 10 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนด การที่จำเลยเบิกความแต่เพียงว่า บริษัทโจทก์ (บริษัทไอทีเอ็ดดูซอฟต์ จำกัด) มีคุณลักษณะครบถ้วนตามที่คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนดจึงได้ซื้อซองประกวดราคา จึงเป็นการเบิกความในภาพรวม ๆ มิได้ระบุเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับซอฟต์แวร์หรือผลิตภัณฑ์ตามที่ระบุในเกณฑ์คุณลักษณะเฉพาะซอฟต์แวร์สื่อการเรียนการสอนภาษาอังกฤษข้อที่ 9 และข้อที่ 10 แต่ประการใด ทั้งยังเป็นการเบิกความถึงขั้นตอนของการซื้อซองประกวดราคาเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในเอกสารหมาย จ.6 ซึ่งเป็นมูลเหตุแห่งคดีและแตกต่างจากผลคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเท่านั้น คำเบิกความของจำเลยจึงไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี แม้คำเบิกความของจำเลยจะเป็นเท็จจำเลยก็ไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จในคดีอาญา เมื่อวินิจฉัยดังนี้แล้วฎีกาของจำเลยข้ออื่นไม่จำต้องวินิจฉัยเพราะไม่ทำให้ผลคำพิพากษาเปลี่ยนแปลง ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดฐานเบิกความเท็จในคดีอาญา นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์