คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8926/2543

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายประกอบกิจการงานขนส่งเดินรถโดยสารประจำทาง โจทก์เป็นพนักงานประจำรายเดือนตำแหน่งพนักงานขับรถจึงเป็นพนักงานซึ่งทำงานขนส่ง ซึ่งตามระเบียบคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เรื่อง มาตรฐานของสิทธิประโยชน์ของพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2534 ข้อ 28 กำหนดว่า พนักงานที่ทำงานขนส่งไม่มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลาตามข้อ 25 และ 26เว้นแต่รัฐวิสาหกิจซึ่งเป็นนายจ้างตกลงจ่ายค่าล่วงเวลาให้แก่พนักงาน แม้จำเลยมีคำสั่งเกี่ยวกับเบี้ยเลี้ยงพิเศษและอัตราเงินส่วนแบ่ง ให้พนักงานขับรถโดยสารและพนักงานเก็บค่าโดยสารได้รับเบี้ยเลี้ยงพิเศษเนื่องจากทำงานเกินวันละ 8 ชั่วโมง อันเป็นเวลาทำงานตามปกติและได้รับเงินส่วนแบ่งจากจำนวนตั๋วที่จำหน่ายได้ก็ตามแต่คำสั่งดังกล่าวมิใช่ข้อตกลงจ่ายค่าล่วงเวลาให้แก่พนักงานขับรถโดยสารและพนักงานเก็บค่าโดยสาร โจทก์จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เข้าทำงานเป็นลูกจ้างของจำเลย เมื่อวันที่ 18ตุลาคม 2538 ทำหน้าที่พนักงานขับรถ ค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ6,200 บาท ระหว่างที่โจทก์ทำงานให้แก่จำเลย โจทก์ทำงานเกินเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้วันละ 4 ชั่วโมง รวม 2,392 ชั่วโมง คิดเป็นเงินค่าล่วงเวลา 92,689.96 บาท จำเลยมีคำสั่งไล่โจทก์ออกจากงานตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2542 โดยกล่าวหาว่าโจทก์ขาดงาน 3 วันจำเลยไม่จ่ายค่าชดเชยให้โจทก์ และไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า โจทก์มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จ ขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าล่วงเวลา92,689.96 บาท ค่าชดเชย 37,200 บาท สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า 9,300 บาท และค่าบำเหน็จ 18,600 บาท แก่โจทก์

จำเลยให้การต่อสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง

ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า พนักงานรัฐวิสาหกิจที่ทำงานขนส่งไม่มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลาตามระเบียบคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์เรื่อง มาตรฐานของสิทธิประโยชน์ของพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2534ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติพนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2534 มาตรา 11(1) และมาตรา 11 วรรคสอง ข้อ 28 และจำเลยซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจประกอบกิจการขนส่งไม่ได้ตกลงว่าจะจ่ายค่าล่วงเวลาแก่พนักงานขับรถอันรวมถึงโจทก์ด้วย ข้อเท็จจริงที่โจทก์นำสืบฟังไม่ได้ว่าโจทก์มีสิทธิได้รับส่วนแบ่งรายได้จากค่าโดยสารและค่าล่วงเวลา พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ประการเดียวว่า โจทก์มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลาหรือไม่ เห็นว่า แม้ระเบียบคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เรื่องมาตรฐานของสิทธิประโยชน์ของพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2534ที่ออกตามความในพระราชบัญญัติพนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์พ.ศ. 2534 ข้อ 25 และข้อ 26 จะกำหนดให้รัฐวิสาหกิจจ่ายค่าล่วงเวลาให้แก่พนักงานที่ทำงานเกินเวลาทำงานปกติหรือทำงานในวันหยุดเกินเวลาปกติของวันทำงานก็ตามแต่ข้อ 28 ก็กำหนดว่าพนักงานที่ทำงานขนส่งไม่มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลาตามข้อ 25 และข้อ 26 เว้นแต่รัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นนายจ้างตกลงจ่ายค่าล่วงเวลาให้แก่พนักงานจำเลยเป็นรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายประกอบกิจการงานขนส่งเดินรถโดยสารประจำทาง โจทก์เป็นพนักงานประจำรายเดือนตำแหน่งพนักงานขับรถ จึงเป็นพนักงานซึ่งทำงานขนส่งและแม้จำเลยมีคำสั่งเกี่ยวกับเบี้ยเลี้ยงพิเศษและอัตราเงินส่วนแบ่ง ให้พนักงานขับรถโดยสารและพนักงานเก็บค่าโดยสารได้รับเบี้ยเลี้ยงพิเศษเนื่องจากทำงานเกินวันละ 8 ชั่วโมง อันเป็นเวลาทำงานตามปกติและได้รับเงินส่วนแบ่งจากจำนวนตั๋วที่จำหน่ายได้ก็ตาม แต่คำสั่งดังกล่าวมิใช่ข้อตกลงจ่ายค่าล่วงเวลาให้แก่พนักงานขับรถโดยสารและพนักงานเก็บค่าโดยสาร โจทก์จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลา

พิพากษายืน

Share