คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 890/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นคลังยุทธภัณฑ์ย่อมมีอำนาจเก็บรักษากระสุนปืนของทหารไว้ในความควบคุมได้ การที่จำเลยนำกระสุนปืนไปเก็บไว้ที่บ้านในบริเวณของทหารนั่นเอง จะฟังว่ากระสุนปืนไม่ใช่ของราชการทหารยังไม่ได้ จำเลยจึงยังไม่มีผิดฐานมีอาวุธปืนสำหรับจะใช่แต่เฉพาะในการสงครามตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน 2490 มาตรา 55,78
อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของทางราชการทหารนั้น พ.ร.บ.อาวุธปืนไม่ใช้บังคับ

ย่อยาว

คดีนี้ จำเลยต้องหาหลายกระทง ศาลมณฑบทหารบกที่ ๔ พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม ก.ม.ลักษระอาญามาตรา ๒๒๕,๑๒๙ และ ๑๓๑ ให้ลงโทษตามมาตรา ๑๓๑ ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุก ๖ ปี กระทง ๑ มีความผิดฐานมีอาวุธปืนสำหรับจะใช้แต่เฉพาะในการสงครามตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ๒๔๙๐ มาตรา ๕๕,๗๘ ให้จำคุก ๑ ปี อีกกะทงหนึ่ง กระสุนปืนของกลางให้ริบ กับให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์
ศาลหทารกลางพิพากแก้ในความผิดกระทงแรก เฉพาะโทษจำคุกเหลือ ๕ ปี ส่วนความผิดฐานมีอาวุธปืนไม่ผิด ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกาเฉพาะความผิด ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อหาเกี่ยวกับกระสุนปืนเล็กยาวแบบ ๖๖ ของราชการทหาร ที่หาว่าจำเลยมีไว้โดยมิได้รับอนุญาตจากนทายทะเบียนท้องถิ่นนั้น พ.ร.บ.อาวุธปืน ๒๔๙๐ มาตรา ๕(๑) มีว่า อาวูปืนและเครื่องกระสุนปืนของทางราชการนั้น พ.ร.บ.อาวุธปืนมิให้ใช้บังคับ กระสุนปืนรายนี้ โจทก์กล่าวหาในฟ้องว่าเป็นของราชการทหาร และศาลทหารกลางฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยเป็นนายคลังยุทธภัณฑ์ย่อมมีอำนาจเก็บรักษากระสุนปืนของทหารไว้ในความควบคุมได้ การที่จำเลยนำกระสุนปืนไปเก็บไว้ที่บ้านในบริเวณของทหารนั่นเอง จะฟังว่ากระสุนปืนไม่ใช่ของราชการทหารยังไม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ จำเลยจึงยังไม่มีผิดฐานในฐานนี้ เทียบได้ตามนัยแห่งคำพิพากษาฦฎีกาที่๑๙๕๘/๒๔๙๒
จึงพิพากษายืน

Share