แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 1 และนายเทียนย้งบิดาจำเลยที่ 1 ได้ร่วมในการชุลมุนต่อสู้กันระหว่างบุคคลตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป นายเทียนย้งบิดาจำเลย ที่ 1 ถูกทำร้ายถึงแก่ความตายในการชุลมุนต่อสู้กันนั้น เมื่อจำเลยที่ 1 ได้ร่วมในการชุลมุนต่อสู้กันนั้นด้วย ถึงแม้จำเลยที่ 1 จะไม่มีอาวุธก็ตาม แต่เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่ได้กระทำเพื่อห้ามการชุลมุนต่อสู้หรือป้องกันตัวจำเลยที่ 1 ก็ต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 294
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 มีปืนเป็นอาวุธ และนายเทียนย้ง แซ่จังซึ่งถูกทำร้ายตายไปแล้ว มีอาวุธปลายแหลมฝ่ายหนึ่ง กับจำเลยที่ 2, 3 มีอาวุธปลายแหลม และนายไว ร่มพุดตาล ซึ่งถูกทำร้ายตายไปแล้วอีกฝ่ายหนึ่ง สมัครใจเข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้ทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไป โดยจำเลยที่ 1 ใช้ปืนเป็นอาวุธยิงนายไวถึงแก่ความตาย และจำเลยที่ 1, 2, 3 นายไวและนายเทียนย้งที่ตายไปแล้วได้ร่วมชุลมุนต่อสู้ซึ่งกันและกัน เป็นเหตุให้นายเทียนย้งถูกแทงถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 294
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยที่ 1 ไม่ได้ฆ่านายไว แต่ได้ร่วมชุลมุนต่อสู้กันเป็นเหตุให้นายเทียนย้งถูกทำร้ายถึงตาย ส่วนจำเลยที่ 2, 3 ไม่ได้ร่วมในการชุลมุนต่อสู้กัน พิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 294 มีกำหนด 2 ปี
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ในวันเกิดเหตุ ได้มีคนชุลมุนต่อสู้กันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปเป็นเหตุให้นายเทียนย้งบิดาจำเลยที่ 1 ถูกทำร้ายถึงแก่ความตาย และจำเลยที่ 1 ได้ร่วมชุลมุนต่อสู้ด้วย จำเลยที่ 1 จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 294 แม้นายไวซึ่งเป็นอีกฝ่ายหนึ่งมิได้ตายเพราะการชุลมุนต่อสู้กันก็ตาม แต่เมื่อนายเทียนย้งบิดาจำเลยที่ 1 ถึงแก่ความตายเพราะการชุลมุนต่อสู้กันแล้ว หาทำให้จำเลยที่ 1 พ้นผิดไปไม่ถึงแม้จำเลยที่ 1 จะไม่มีอาวุธ แต่เมื่อจำเลยที่ 1 ได้ร่วมชุลมุนต่อสู้กัน เป็นเหตุให้นายเทียนย้งถึงแก่ความตายเพราะการชุลมุนนั้น และไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ได้กระทำเพื่อห้ามการชุลมุนต่อสู้หรือป้องกันตัว จำเลยที่ 1 จึงต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 294 ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้นพิพากษายืน
