คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 88/2469

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ขับไล่ คู่ความอำนาจเจ้าพนักงานท้องที่กั้นเอาที่ราษฏรเปนที่รัฐบาลได้เพียงไร

ย่อยาว

โจทย์ได้รับมรดกที่จากบิดาแลปกครองมารวมเปนเวลา ๔๕ ปี กับได้เสียอากรสมพัตสร ตลอดมาด้วย โจทย์พยายามขอหนังสือสำคัญสำหรับที่ดินอยู่ แต่ยังไม่สำเร็จ พวกจำเลยนอกจากขุนแก้ว ขุนวิจิตร แย่งร้องขอจับจองทับที่นี้ แต่ไม่ได้ จึงพากันร้องขอให้เปนที่สาธาณประโยชน์ โดยขุนแก้วกำนันเปนผู้ทำรายงานยื่นขุนวิจิตรปลัดอำเภอเปนผู้ไต่สวนแลลงความเห็นว่าให้ที่นี่เปนที่สาธารณะ-เสนอจังหวัด ต่อมาพวกจำเลยบุกรุกตัดต้นไม้ของโจทย์ โจทย์จึงฟ้องระหว่างฟ้องจังหวัดมีจดหมายถึงศาลว่าได้สงวนที่รายนี้ไว้สำหรับเปนสาธารณะ โจทย์ถอนฟ้องเสียชั่วคราวเพื่อว่ากล่าวทางจังหวัดก่อน พวกจำเลยนอกจากขุนแก้วขุนวิจิตได้บุกรุกเข้ากั้นรั้วปักเขตร์ตัดฟันพรรณไม้แลปลูกเรือนโรงลงในที่รายนี้ โจทย์จึงฟ้องขับไล่จำเลยอื่น ๆ นอกจากขุนแก้วขุนวิจิตให้ออกจากที่ แลขอให้ขุนแก้วขุนวิจิตถอนรายงานแลถอนหลักเขตร์ พนักงานอัยการว่าต่างขุนแก้วขุนวิจิตจำเลยอ้างว่าทำตามน่าที่
ศาลจังหวัดตัดสินให้ขับไล่จำเลยอื่นกับให้ใช้ค่าเสียหาย ส่วนขุนแก้วขุนวิจิตจำเลยนั้นทำการตามน่าที่ ให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าเจ้าพนักงานหวงห้ามไว้เปนที่สาธารณ โจทย์หมดอำนาจตาม พรบ. ออกโฉนดที่ดิน ร.ศ. ๑๒๗ ม. ๖๑ แลพนักงานอัยการว่าต่างขุนวิจิตขุนแก้วจำเลยอยู่ด้วยก็เท่ากับเปนคู่ความแทนรัฐบาล
ฎีกาวินิจฉัยว่าที่เป็นของโจทย์ไม่ใช่ที่ว่างเปล่า ฤารัฐบาลหวงห้ามไว้แต่เดิม แลรัฐบาลไม่ได้ใช้ทำประโยชน์ในราชการโดยตราตามนัยฎีกาที่ ๕๓๐/๑๒๒, ๑๒๗/๒๔๖๓ แลการที่อัยการว่าต่างนั้น จะถือว่ารัฐบาลเปนคู่ความด้วยไม่ได้
พิพากษากลับยืนตามศาลจังหวัด

Share