แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีความผิดต่อส่วนตัว เมื่อได้ความชัดตามฟ้องและชั้นพิจารณาว่า เจ้าทุกข์ผู้เสียหายได้แจ้งความมอบคดีต่อเจ้าพนักงานให้จัดการฟ้องร้องจำเลยได้ ก็เป็นการปฏิบัติชอบตาม ป.วิ.อ. มาตรา 2 (7) แล้ว ไม่จำต้องแสดงต่อศาลถึงเอกสารการมอบอำนาจหรือมอบคดีให้อัยการฟ้องร้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกันฉุดคร่านางสาวสาระไปเพื่อการอนาจาร และหน่วงเหนี่ยวกักขังทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพ และจำเลยที่ ๑ ได้ข่มขืนกระทำชำเรานางสาวสาระจนสำเร็จความใคร่ ผู้เสียหายได้แจ้งความมอบคดีให้เจ้าพนักงานฟ้องจำเลยแล้ว ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๐, ๒๗๖, ๒๗๘, ๒๘๔, ๓๐๙, ๓๑๐, ๙๑
จำเลยทุกคนปฏิเสธและว่าฟ้องเคลือบคลุม
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม พิพากษาว่าจำเลยทั้งสองผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๔, ๒๗๘, ๓๐๙, ๓๑๐ และจำเลยที่ ๑ ผิด มาตรา ๒๗๖ อีกกระทงหนึ่ง ให้ลงโทษตามบทและกระทงที่หนักที่สุด คือให้ลงโทษจำเลยที่ ๑ ตามมาตรา ๒๗๖ จำคุก ๒ ปี ๖ เดือน จำเลยที่ ๒ – ๓ ตาม มาตรา ๒๘๔ จำคุกคนละ ๑ ปี ่จำเลยที่ ๓ อายุ ๑๘ ปี ลดกึ่งตาม มาตรา ๗๖ เป็นจำคุก ๖ เดือน จำเลยที่ ๓ ไม่เคยทำผิดมาก่อนและการกระทำไม่ร้ายแรงให้รอการลงโทษไว้ ๓ ปี ตามมาตรา ๕๖, ๕๘
จำเลยทุกคนอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับเฉพาะข้อกฎหมาย
ข้อที่จำเลยฎีกาว่า อัยการไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้ เพราะโจทก์ไม่มีเอกสารการมอบอำนาจหรือมอบคดีให้พนักงานอัยการฟ้องนั้น คดีนี้ได้ความชัดตามฟ้องและชั้นพิจารณาแล้วว่า เจ้าทุกข์ผู้เสียหายได้แจ้งความมอบคดีต่อเจ้าพนักงานให้จัดการฟ้องร้องจำเลยไว้แล้ว อันเป็นการปฏิบัติชอบแล้วตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๒(๗) หาจำต้องแสดงเอกสารการมอบอำนาจดังจำเลยฎีกาไม่
ศาลฎีกา พิพากษายืน