คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 877/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาล เอาที่ดินพิพาทประมูลระหว่างกันเอง ถ้าไม่ตกลงให้เอาขายทอดตลาด ต่อมาโจทก์จำเลยได้แถลงต่อศาลว่า ไม่สามารถจะตกลงกันในวิธีการประมูลได้ทั้งสองฝ่ายจึงขอให้ขายทอดตลาด ศาลได้เรียกคู่ความมาสอบถาม ทั้งสองฝ่ายขอให้ศาลถือข้อตกลงใหม่แทนการที่จะประมูลหรือบังคับคดี แต่ฝ่ายโจทก์กลับเป็นฝ่ายผิดข้อตกลงตามที่ได้ตกลงกันใหม่นั้น จำเลยจึงไม่จำเป็นจะต้องปฏิบัติการตามข้อตกลงใหม่นั้น แต่ยังคงต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาท้ายยอม คือให้ขายทอดตลาดเอาเงินมาแบ่งกันตามคำพิพากษาท้ายยอม

ย่อยาว

โจทก์จำเลยพิพาทกันเรื่องทรัพย์มรดกในที่สุด ประนีประนอมยอมความกันต่อศาลว่าให้เอาเรือน รวมทั้งครัวกับที่ดินโฉนดเลขที่ 1373 และ 1400 ประมูลระหว่างกันเอง ถ้าไม่ตกลงให้เอาขายทอดตลาดได้เงินเท่าใดแบ่งให้โจทก์หนึ่งในสาม จำเลยสองในสาม ฯลฯ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น

ต่อมาคู่ความไม่สามารถตกลงกันได้ ในวิธีการที่จะประมูลกันเอง ทั้งสองฝ่ายขอให้ศาลถือข้อตกลงยินยอมดังต่อไปนี้แทนการประมูลหรือการบังคับคดี คือจำเลยจะโอนที่ดินโฉนดที่ 1373 และ 1400 ให้เป็นของโจทก์ ๆ ยอมใช้ราคา 55,000 บาท ให้แก่จำเลยแต่จะแบ่งชำระให้เป็น 2 งวด งวดแรก 40,000 บาทภายใน 1 เดือน งวดที่ 2 เงิน 15,000 บาท ภายใน 1 เดือน นับแต่วันชำระงวดแรก ฯลฯแต่ต่อมาโจทก์ไม่สามารถชำระเงินได้ตามที่ตกลงกันไว้ จำเลยจึงขอให้ศาลบังคับคดีตามคำพิพากษาท้ายยอม

ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องของจำเลยเสีย ให้ออกคำบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามข้อตกลงใหม่ดังกล่าว

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ดำเนินการขายทอดตลาด เอาเงินแบ่งกันตามคำพิพากษาท้ายยอม

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว คดีนี้ศาลชั้นต้นได้พิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ซึ่งหมายความว่า ตกลงยอมความกันไว้อย่างไรก็พิพากษาตามนั้น กล่าวคือให้ประมูลราคาระหว่างกันเองก่อน ถ้าไม่ตกลงจึงให้ขายทอดตลาด ต่อมาโจทก์จำเลยได้แถลงต่อศาลว่าไม่สามารถจะตกลงกันในวิธีการประมูลได้ ทั้งสองฝ่ายจึงขอให้ขายทอดตลาดศาลได้เรียกคู่ความมาสอบถาม ทั้งสองฝ่ายขอให้ศาลถือเอาข้อตกลงใหม่แทนการที่จะประมูลหรือบังคับคดีข้อความที่กล่าวนี้น่าจะเข้าใจว่าทั้งสองฝ่ายตกลงกันเฉพาะ เรื่องการประมูลอย่างเดียวว่า เป็นอันไม่ต้องประมูล โดยให้ถือข้อที่ได้ตกลงใหม่แทนการประมูลหรือการบังคับคดีเท่านั้น แต่ฝ่ายโจทก์กลับเป็นฝ่ายผิดข้อตกลงเอง กล่าวคือไม่ชำระเงินงวดแรกให้ครบตามที่ตกลงกันไว้ จำเลยจึงไม่จำเป็นจะต้องปฏิบัติการตามข้อตกลงใหม่นี้ แต่ยังคงต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาท้ายยอม จึงพิพากษายืน

Share