คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1469/2526

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ชายไปอยู่กินกับหญิง และแสดงความสัมพันธ์ฉันสามีภริยาในที่ต่าง ๆ อย่างเปิดเผยเป็นการยอมรับว่าหญิงเป็นภริยา มีการจัดเลี้ยงฉลองการตั้งครรภ์ เป็นการแสดงออกถึงการรับรองว่าโจทก์ซึ่งเป็นทารกในครรภ์มารดาเป็นบุตรของตน โจทก์จึงเป็นบุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองแล้วถือว่าเป็นผู้สืบสันดานเหมือนบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1627 และเป็นทายาทโดยธรรมมีสิทธิได้รับมรดกตามมาตรา 1629(1)

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองแบ่งทรัพย์สินให้โจทก์หนึ่งในหกส่วน ถ้าการแบ่งไม่ตกลงกันให้ประมูลราคากันระหว่างโจทก์กับจำเลยทั้งสอง ถ้าประมูลกันไม่อาจตกลงได้ ให้นำทรัพย์สินออกขายทอดตลาดแบ่งเงินที่ขายได้ให้โจทก์หนึ่งในหกส่วน และให้แบ่งเงินที่ได้จากการขายที่ดินให้โจทก์ 11,083.33 บาท จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ปัญหาตามฎีกาของจำเลยข้อแรกมีว่าเด็กชายมานะ สุขเกษม โจทก์เป็นบุตรนอกกฎหมายที่นายเผด็จ สุขเกษมบิดาได้รับรองแล้วหรือไม่ ข้อนี้ได้ความว่า นางวิไลวรรณ ศิลปพงษ์ มารดาโจทก์เป็นสมุห์บัญชีสนามกอล์ฟสวนสามพราน นายเผด็จเป็นสมาชิกสนามกอล์ฟนี้โจทก์มีนางอรสุมล ดิษฐเกษร นายบุญเพ็ญ อุทุมพร พนักงานประจำสนามกอล์ฟ กับนายเฉลย เอี่ยมวัฒนะ ที่ปรึกษาสนามกอล์ฟดังกล่าวเป็นพยานเบิกความประกอบคำนางวิไลวรรณยืนยันว่า นายเผด็จกับนางวิไลวรรณมีความสัมพันธ์ฉันสามีภริยาจนเป็นที่รู้กันทั่วไป นายเผด็จไปรับและมาส่งนางวิไลวรรณที่สนามกอล์ฟเป็นปกติ ทั้งยังมีนางสาวศรีวรรณ ศิลปพงษ์เป็นพยานว่า นายเผด็จมาค้างคืนกับนางวิไลวรรณที่บ้านมารดานางวิไลวรรณเสมอ นอกจากนี้โจทก์มีภาพถ่ายของนายเผด็จและนางวิไลวรรณถ่ายภาพร่วมกันในโอกาสไปเที่ยวและรับประทานเลี้ยงซึ่งแสดงถึงความสัมพันธ์อันใกล้ชิด กับหลักฐานรายงานประจำวันหมาย จ.1 ที่นางวิไลวรรณไปแจ้งความไว้ว่า นางอัมพรน้องสาวจำเลยที่ 1 ไปขู่อาฆาตจะทำร้ายนางวิไลวรรณ ในการที่นางวิไลวรรณยุ่งเกี่ยวกับนายเผด็จสามีจำเลยที่ 1และยังได้ความว่านายเผด็จแสดงความหึงหวงไม่ให้ใครยุ่งเกี่ยวกับนางวิไลวรรณ ประกอบกับก่อนที่นางวิไลวรรณจะตั้งครรภ์ ก็ไม่ปรากฏว่านางวิไลวรรณมีความสัมพันธ์กับชายอื่นนอกจากนายเผด็จ ข้อที่จำเลยอ้างว่านายเผด็จทำหมันตั้งแต่อยู่ที่จังหวัดเชียงรายก็เป็นเพียงคำกล่าวอ้างไม่มีหลักฐานสนับสนุน แต่ได้ความว่า นายเผด็จไปอยู่กินกับนางวิไลวรรณฉันสามีภริยาที่บ้านมารดานางวิไลวรรณ และแสดงความสัมพันธ์ฉันสามีภริยาในที่ต่าง ๆ อย่างเปิดเผยเป็นการยอมรับว่า นางวิไลวรรณเป็นภริยาของตน ได้จัดเลี้ยงฉลองการตั้งครรภ์ของนางวิไลวรรณที่บ้านมารดานางวิไลวรรณแล้วถ่ายภาพร่วมกันไว้ตามภาพถ่ายหมาย จ.2 โดยนายเผด็จซบหน้าบนไหล่ มือซ้ายวางบนหน้าท้องนางวิไลวรรณนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวเป็นการแสดงออกถึงการรับรองว่า โจทก์ซึ่งเป็นทารกในครรภ์มารดาเป็นบุตรของตน โจทก์จึงเป็นบุตรนอกกฎหมายที่นายเผด็จบิดารับรองแล้วถือว่าเป็นผู้สืบสันดานเหมือนบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1627 และเป็นทายาทโดยธรรมมีสิทธิได้รับมรดกตามมาตรา 1629(1)”

พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share