แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
+คำร้องต่อข้าหลวงประจำจังหวัดขอให้สอบสวนเรื่องสลากกินแบ่งหายเพื่อขอรับรางวัลอันเป็นความเท็จนั้นไม่เป็นผิดฐานแจ้งความเท็จ
ข้าหลวงทำหน้าที่ในฐานะกรรมการสลากกินแบ่งนั้นไม่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพนักงาน
ย่อยาว
ได้ความว่าจำเลยยื่นคำร้องอันเป็นความเท็จต่อหลวงทรงประศาสน์  ข้าหลวงประจำจังหวัดตากว่า  ลอตตเตอรี่ตราองคตเลยที่ ๕๒๖๔๓๑  ของจำเลยหายไป  สลากฉะบับนี้เป็นสลาดถูกรางวัล  จำเลยจึงขอรับเงินความจริง  ฉลากฉะบับนี้เป็นของคนอื่น  โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๑๑๘
ศาลชั้นต้นเห็นว่า  จำเลยยื่นคำร้องต่อหลวงทรงประศาสน์ในฐานะเป็นกรรมการสลากกินแบ่งตราองคต   รับมอบหมายหน้าที่จากสำนักงานกลางสลากกินแบ่ง  หาใช่หน้าที่ประจำของข้าหลวงไม่  และไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าการออกสลากนั้นเป็นราชการแผ่นดิน  จึงฟังไม่ได้ว่าข้าหลวงรับคำร้องของจำเลยไว้ในฐานะเป็นข้าราชการ  จำเลยจึงไม่มีความผิดตามมาตรา ๑๑๘
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าเมื่อจำเลยร้องว่าสลากหายก็เป็นหน้าที่ข้าหลวงต้องสอบสวนในฐานะเป็นข้าหลวงประจำจังหวัดด้วย  และการได้รับแต่ง  ตั้งเป็นกรรมการสลากกินแบ่งก็โดยอาศัยตำแหน่งข้าหลวง  ฉะนั้นจึงเป็นเจ้าพนักงาน จึงพิพากษาลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จตามมาตรา  ๑๑๘
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า  จำเลยขอให้หลวงทรงประศาสน์สอบสวนเรื่องสลากหายเพื่อขอรับรางวัล  หาได้ขอให้จัดการในหน้าที่เป็นผู้ระงับทุกข์บำรุงสุขไม่  และโจทก์สืบไม่ได้ว่าการออกสลากตราองคตเป็นการงานที่ทางราชการจัดทำ  จึงลงโทษจำเลยตาม ม.๑๑๘ ไม่ได้ให้ยกฟ้อง

