คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8749/2554

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ดินพิพาทมีชื่อโจทก์ร่วมเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ แม้สำนักงานธนารักษ์ตรวจสอบแล้วปรากฎว่าโฉนดออกในที่ราชพัสดุและมีการขอให้เพิกถอนโฉนดที่ดินดังกล่าว แต่ขั้นตอนในการเพิกถอนโฉนดยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ และผลในการเพิกถอนยังไม่ปรากฏว่าจะเพิกถอนได้หรือไม่ เมื่อมีบุคคลมารบกวนการครอบครองที่ดินของโจทก์ร่วมดังกล่าว จึงเป็นการกระทำที่กระทบต่อสิทธิในการครอบครองที่ดินของโจทก์ร่วม โจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362, 365 (2) (3), 83
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ระหว่างพิจารณา ร้อยตรีประสาน ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์และโจทก์ร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365 (2) ประกอบมาตรา 362, 83 ให้จำคุกคนละ 1 ปี
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉํยว่า ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินที่มีการออกโฉนดเลขที่ 239116 โดยมีชื่อโจทก์ร่วมเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ แม้สำนักงานธนารักษ์จังหวัดสมุทรปราการได้ตรวจสอบแล้วปรากฏว่าโฉนดที่ดินเลขที่ดังกล่าวออกในที่ราชพัสดุ และยังมีการขอให้เพิกถอนโฉนดดังกล่าวก็ตาม แต่ขั้นตอนในการเพิกถอนโฉนดดังกล่าวนั้นยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ และผลในการเพิกถอนโฉนดยังไม่ปรากฏว่าจะมีการเพิกถอนโฉนดดังกล่าวได้หรือไม่ ซึ่งในขณะร้องทุกข์ดำเนินคดีโจทก์ร่วมก็ยังมีชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินดังกล่าว และเมื่อมีบุคคลมารบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ในขณะที่โจทก์ร่วมมีชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์บนที่ดินโฉนดดังกล่าว จึงเป็นการกระทำที่กระทบต่อสิทธิในการครอบครองที่ดินของโจทก์ร่วมในขณะนั้น โจทก์ร่วมจึงเป็นบุคคลผู้ได้รับความเสียหายอันเนื่องมาจากการกระทำความผิดในการรบกวนการครอบครองที่ดินดังกล่าว โจทก์และโจทก์ร่วมจึงมีอำนาจฟ้อง
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ปรับจำเลยทั้งสองคนละ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ให้คุมความประพฤติจำเลยทั้งสองโดยให้จำเลยทั้งสองไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 3 เดือนต่อครั้ง ภายในกำหนด 2 ปี และให้จำเลยทั้งสองกระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติและจำเลยทั้งสองเห็นสมควรมีกำหนดคนละ 20 ชั่วโมง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 หากจำเลยทั้งสองไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1

Share