แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การกระทำผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 จะเกิดขึ้นต่อเมื่อธนาคารผู้มีชื่อเป็นผู้ใช้เงินตามเช็คปฏิเสธการใช้เงินตามเช็คนั้น แต่ฟ้องโจทก์ไม่ได้ระบุวันเวลาที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ยเงินตามเช็คและไม่ได้แนบสำเนาเช็ค และใบคืนเช็คมากับคำฟ้องด้วย ฟ้องของโจทก์ไม่มีรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาที่เกิดการกระทำผิด จึงเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันเวลาใดไม่ปรากฏ จำเลยออกเช็คธนาคารสหธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาลุมพินี เลขที่ เอส.ที / ๑๙-๓๑๖๑๔๐  ลงวันที่  ๑๘  มกราคม ๒๕๒๐   สั่งจ่ายเงิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท  ชำระหนี้ให้โจทก์  โจทก์นำเช็คดังกล่าวไปเข้าบัญชีธนาคารเพื่อเรียกเก็บเงิน  แต่ธนาคารสหธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาลุมพินี  ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค  โจทก์ติดต่อทวงถามจำเลยเพิกเฉย  การกระทำดังกล่าวของจำเลยถือว่าจำเลยออกเช็คโดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ฯลฯ   ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗  มาตรา ๓
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว  เห็นว่าคดีมีมูล  จึงประทับฟ้องของโจทก์ไว้
ในวันนัดสืบพยานโจทก์  ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้แล้ว  จึงสั่งงดสืบพยานโดยมิได้สอบถามคำให้การจำเลย
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า  ฟ้องโจทก์ไม่มีวันเวลาที่อ้างว่าจำเลยกระทำผิดจึงไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา  มาตรา ๑๕๘  พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า  คำฟ้องในคดีอาญาจะต้องมีรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาซึ่งเกิดการกระทำผิด  ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา  มาตรา ๑๕๘ (๕)  แต่คำฟ้องของโจทก์ระบุวันเวลาที่จำเลยเขียนเช็คและวันที่จำเลยลงในเช็ค หรือออกเช็คแต่วันเวลาที่จำเลยเขียนเช็คและวันที่จำเลยลงในเช็คหรือออกเช็คไม่ใช่วันเวลาที่เกิดการกระทำผิดการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค  พ.ศ. ๒๔๙๗  มาตรา ๓  จะเกิดขึ้นต่อเมื่อธนาคารที่มีชื่อเป็นผู้ใช้เงินตามเช็คปฏิเสธการใช้เงินตามเช็คนั้น  แต่ฟ้องโจทก์ไม่ได้ระบุวันเวลาที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค  และโจทก์ไม่ได้แนบสำเนาเช็คและใบคืนเช็คมากับคำฟ้องด้วย  ฟ้องของโจทก์จึงไม่มีรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาที่เกิดการกระทำผิด  จึงเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา  มาตรา ๑๕๘
พิพากษายืน

