คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 873-874/2484

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยให้การรับว่าได้ตัดฟันต้นไม้ของผู้เสียหาย แต่อ้างว่ากระทำเพียงเท่าที่จำเป็นพอให้เกวียนเดินได้ ทั้งได้แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบแล้วด้วย เพียงเท่านี้ข้อเท็จจริงยังไม่พอจะวินิจฉัยได้ ควรต้องสืบพะยานประกอบการวินิจฉัยก่อน ว่าการกระทำของจำเลยต้องด้วยหลักเกณฑ์ในความผิดหรือไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องเป็น ๒ สำนวนว่าจำเลยสมคบกันตัดฟันไม้คันรั้วของนายเหี่ยวและนายฉัตร์เสียหาย จำเลยให้การต้องกันว่าผู้เสียหายปล่อยให้ต้นไม้คันรั้วรุกล้ำออกไปปิดทางเกวียนจนไม่สามารถจะเข้าออกได้ จำเลยได้แจ้งให้ผู้เสียหายทราบแล้วผู้เสียหายก็เพิกเฉยเสีย จำเลยจึงแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบแล้ว ตัดกิ่งไม้ที่ล้ำทางออกพอให้เกวียนเดินได้ จำเลยถือว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดโดยอาศัยกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๔๙ ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพะยานแล้วพิพากษาว่า แม้คดีจะได้ความตามข้อต่อสู้ของจำเลยก็ยังถือไม่ได้ว่าเป็นความจำเป็นที่จำเลยต้องกระทำเพื่อป้องกันภยันตรายอันร้ายแรงอย่างใดจำเลยยังมีทางที่จะกระทำอย่างอื่นได้ พิพากษาว่าจำเลยผิดกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๓๒๔ ให้ปรับสำนวนหนึ่งคนละ ๒ บาท
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าคดีนี้ข้อเท็จจริงยังไม่ได้ความพอจะวินิจฉัยความผิดของจำเลยได้ การที่จะชี้ขาดว่าจำเลยกระทำผิดจะต้องคำนึกถึงการกระทำของจำเลยว่าต้องด้วยหลักเกณฑ์ในความผิดหรือไม่ ที่ศาลชั้นต้นงดสืบพะยานโจทก์จำเลนนั้นไม่ชอบ จึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ทำการพิจารณาและพิพากษาใหม่
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าตามข้อและคำให้การของจำเลยคดีนี้เพียงเท่านี้ข้อเท็จจริงยังไม่กระจ่างพอที่จะวินิจฉัยได้สมควรให้มีการสืบพะยานเพื่อประกอบการวินิจฉัยไป จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share