แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในกรณีที่ศาลเห็นว่าคำพยานบุคคลของโจทก์เชื่อเป็นความจริงไม่ได้ และตามรูปเรื่องแห่งลักษณะคดีทั้งหมดพยานหลักฐานของโจทก์ยังไม่พอให้ฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองได้ทำให้มีขึ้นซึ่งการกระทำผิดดังฟ้อง ถือว่าเป็นเหตุในลักษณะคดี ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องสำหรับจำเลยที่มิได้อุทธรณ์ฎีกาขึ้นไปด้วยได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยสมคบกันชิงทรัพย์ของนายมูล และได้ฆ่านางสมตาย ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 250, 300 ฯลฯ
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยทั้งสองชิงทรัพย์และฆ่านางสมตาย เพื่อปกปิดการกระทำผิดและเพื่อเอาทรัพย์ ทั้งเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาจึงพิพากษาให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสองตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 250
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า ทางพิจารณาไม่ปรากฏว่า นายชู
จำเลยที่ 1 ได้ลงมือฆ่านางสม นายชูจำเลยจึงมีความผิดตามมาตรา300 ตอน 3 ให้จำคุกนายชูจำเลย 20 ปี นายจั๋นจำเลยคงพิพากษายืน
โจทก์และนายชูจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนและพิเคราะห์คำนายมูล นางจันทาพยานโจทก์แล้ว เห็นว่า เชื่อเป็นความจริงไม่ได้ ตามรูปเรื่องแห่งลักษณะคดีนี้ทั้งหมดไม่พอให้ฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองได้ทำให้มีขึ้นซึ่งการกระทำผิดดังฟ้อง ต้องยกฟ้องของโจทก์เสีย สำหรับนายจั๋นจำเลย แม้จะไม่ฎีกาขึ้นมา แต่เป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดีศาลพิพากษาตลอดไปถึงได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 213
พร้อมกันพิพากษากลับให้ยกฟ้องปล่อยจำเลยทั้งสองไป ฯลฯ