คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8717/2558

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลย เท่ากับศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ กรณีเช่นนี้คำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 1 จึงเป็นที่สุดตามที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ.พ. มาตรา 236 วรรคหนึ่ง

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยและบริวารรื้อถอนบ้านเลขที่ 4/1 หมู่ที่ 4 ตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และขนย้ายทรัพย์สินออกจากที่ดินพิพาทโฉนดเลขที่ 9241 ตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้จำเลยชำระค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงินจำนวน 1,500 บาท และต่อไปเดือนละ 250 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยและบริวารจะย้ายออกจากที่ดินพิพาท กับให้จำเลยชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 5,000 บาท จำเลยอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยยื่นอุทธรณ์เมื่อพ้นกำหนดที่ศาลอนุญาตแล้ว จึงไม่รับอุทธรณ์จำเลย คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมด
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งว่า จำเลยยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2558 โดยมิได้นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลภายในกำหนด อันเป็นการไม่ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 234 คำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ยกคำร้อง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลย เท่ากับศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ กรณีเช่นนี้คำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 1 จึงเป็นที่สุดตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 วรรคหนึ่ง ต้องห้ามมิให้ฎีกา ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยจึงเป็นการไม่ชอบด้วยบทบัญญัติดังกล่าวแล้ว ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกฎีกาจำเลย คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมดในชั้นฎีกาให้แก่จำเลย ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกานอกจากนี้ให้เป็นพับ

Share