แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยเป็นเจ้าของและได้รับอนุญาตให้ตั้งโรงเรียน ม. ซึ่งไม่มีเลขที่ แต่โรงเรียนม. กับบ้านเลขที่ 788 ตั้งอยู่บนที่ดินของบริษัท ด. ซึ่งสำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 788 มีจำเลยเป็นกรรมการคนหนึ่ง และเจ้าพนักงานศาลเคยไปส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องให้จำเลย ซึ่งระบุเลขที่ 788 ก็จะนำส่งที่โรงเรียน ม. น่าเชื่อว่าบ้านเลขที่ 788คือสถานที่ตั้งของโรงเรียน ม. ซึ่งเป็นที่ทำงานของจำเลยมาเป็นเวลา 12 ปี จนถึงปัจจุบันจำเลยพักอาศัยอยู่ในโรงเรียนนั้น ถือว่าโรงเรียน ม. เป็นถิ่นอันจำเลยมีสถานที่อยู่เป็นแหล่งสำคัญ สถานที่ดังกล่าวจึงเป็นภูมิลำเนาแห่งหนึ่งของจำเลย การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยที่ภูมิลำเนาดังกล่าวจึงเป็นการส่งโดยชอบ
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากอาคารและที่ดินพิพาทและเรียกค่าเสียหาย จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาศาลชั้นต้นพิจารณาคดีไปฝ่ายเดียวแล้วพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากอาคารเลขที่ 788 ถนนนครราชสีมา – กบินทร์บุรี ตำบลเมืองปัก อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา และออกไปจากที่ดินพิพาท
จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่อ้างว่า จำเลยไม่ทราบมาก่อนว่าถูกโจทก์ฟ้องเป็นคดีนี้ เนื่องจากเจ้าพนักงานได้ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องและคำบังคับให้จำเลยโดยวิธีปิดหมาย ณ บ้านเลขที่ 788 ถนนนครราชสีมา – กบินทร์บุรี ตำบลเมืองปัก อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งไม่ใช่ภูมิลำเนาของจำเลย จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านเลขที่ 198 ถนนราชวิถี แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร จำเลยเพิ่งมาทราบว่าถูกโจทก์ฟ้องเนื่องจากเจ้าพนักงานบังคับคดีไปปิดหมายแจ้งประกาศขับไล่ให้ทราบที่โรงเรียนอนุบาลมารีย์ปักธงชัย ตำบลเมืองปัก อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา จำเลยมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การหรือขาดนัดพิจารณาคดี
โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า จำเลยเป็นเจ้าของและได้รับอนุญาตให้ตั้งโรงเรียนมารีย์ปักธงชัย โรงเรียนดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่หรือครูซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยอยู่เป็นประจำทุกวันจำเลยไปทำงานที่โรงเรียนดังกล่าวทุกวัน การปิดหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องจึงเป็นการปิด ณ ที่ทำงานของจำเลย ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีใหม่ โดยให้จำเลยยื่นคำให้การแก้คดี แล้วพิจารณาพิพากษาต่อไปตามรูปคดี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์มีว่าการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยโดยส่งที่โรงเรียนมารีย์ปักธงชัยเป็นการส่งโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จำเลยอ้างว่าบ้านเลขที่ 788 หมู่ที่ 10 ถนนนครราชสีมา – กบินทร์บุรี ตำบลเมืองปัก อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา เป็นที่อยู่ของนางลัดดาวัลย์ ไชยดิษฐ์ เป็นคนละแห่งกันกับโรงเรียนมารีย์ปักธงชัย แต่โจทก์อ้างว่าโรงเรียนมารีย์ปักธงชัยตั้งอยู่บ้านเลขที่ 788 หมู่ที่ 10 ถนนนครราชสีมา – กบินทร์บุรีตำบลเมืองปัก อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา จำเลยมีตัวจำเลยและนางลัดดาวัลย์ไชยดิษฐ์ เบิกความว่า จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านเลขที่ 198 ถนนราชวิถี แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร บ้านเลขที่ 788 หมู่ที่ 10 ถนนนครราชสีมา -กบินทร์บุรี ตำบลเมืองปัก อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา มีชื่อนางลัดดาวัลย์ ไชยดิษฐ์ อยู่ในทะเบียนบ้านและอยู่คนละแห่งกับโรงเรียนมารีย์ปักธงชัย ซึ่งไม่มีเลขที่ส่วนโจทก์มีนายสวัสดิ์ เอิบกิ่ง พนักงานไปรษณีย์อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมาเบิกความว่า เป็นผู้นำจ่ายไปรษณีย์ตอบรับตามเอกสารหมาย จ.8 ที่ระบุชื่อจำเลยไปส่งที่โรงเรียนมารีย์ปักธงชัยผู้ลงลายมือชื่อรับเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการของโรงเรียนและหากจดหมายถึงบุคคลอื่นโดยระบุที่อยู่เลขที่ 788 หมู่ที่ 10 ถนนนครราชสีมา – กบินทร์บุรีตำบลเมืองปัก อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ก็จะนำส่งที่โรงเรียนมารีย์ปักธงชัยและเจ้าหน้าที่ธุรการเป็นผู้รับไว้ และนายสนอง ด้วงมุขพะเนาว์ เจ้าพนักงานศาลจังหวัดนครราชสีมาเบิกความว่า เป็นผู้นำหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องส่งให้จำเลย ณ บ้านเลขที่ 788 ดังกล่าวเป็นโรงเรียนมารีย์ปักธงชัย วันที่ไปส่งพบเจ้าหน้าที่สอบถามได้รับแจ้งว่าจำเลยไม่อยู่ พยานเคยส่งหมายศาลให้จำเลยหลายครั้งโดยส่งที่โรงเรียนมารีย์ปักธงชัยเห็นว่า แม้จำเลยจะนำสืบว่าโรงเรียนมารีย์ปักธงชัยไม่มีเลขที่ แต่โรงเรียนมารีย์ปักธงชัยกับบ้านเลขที่ 788 ดังกล่าวต่างก็อยู่บนที่ดินของบริษัทดิษฐวัลย์ จำกัด สำนักงานตั้งอยู่บ้านเลขที่ 788 ดังกล่าว และจำเลยก็เป็นกรรมการคนหนึ่งของบริษัทดิษฐวัลย์ จำกัด ประกอบกับพนักงานไปรษณีย์ซึ่งเคยส่งไปรษณีย์ตอบรับให้จำเลย และเจ้าพนักงานศาลเคยไปส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยซึ่งระบุเลขที่ 788 หมู่ที่ 10 ถนนนครราชสีมา – กบินทร์บุรี ตำบลเมืองปัก อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ก็จะนำส่งที่โรงเรียนมารีย์ปักธงชัย พยานโจทก์จึงมีน้ำหนักกว่าพยานจำเลย น่าเชื่อว่าบ้านเลขที่ 788 หมู่ที่ 10 ถนนนครราชสีมา – กบินทร์บุรี ตำบลเมืองปัก อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา คือสถานที่ตั้งของโรงเรียนมารีย์ปักธงชัยซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของจำเลยมาเป็นเวลา 12 ปี จนถึงปัจจุบันจำเลยพักอาศัยอยู่ในโรงเรียนนั้น จึงถือว่าโรงเรียนมารีย์ปักธงชัยเป็นถิ่นอันจำเลยมีสถานที่อยู่เป็นแหล่งสำคัญ สถานที่ดังกล่าวจึงเป็นภูมิลำเนาแห่งหนึ่งของจำเลย การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยที่ภูมิลำเนาดังกล่าวจึงเป็นการส่งโดยชอบที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยว่า การส่งหมายเรียกสำเนาคำฟ้องและหมายนัดสืบพยานโจทก์ให้แก่จำเลยที่โรงเรียนมารีย์ปักธงชัยโดยระบุว่าเป็นบ้านเลขที่ 788 เป็นการไม่ชอบนั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของโจทก์ในข้อนี้ฟังขึ้นไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาของโจทก์ในข้ออื่นอีกเพราะไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไป”
พิพากษากลับ ให้ยกคำร้องของจำเลย