คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 869/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เช่าอสังหาริมทรัพย์ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดจะฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 ในกรณีเรียกค่าเช่า ผู้เช่าเป็นฝ่ายที่ต้องรับผิด ใบเสร็จรับเงินค่าเช่าที่มีแต่ลายมือชื่อของผู้ให้เช่า ไม่ใช่หลักฐานที่มีลายชื่อของผู้เช่า ฉะนั้น ผู้ให้เช่าจะฟ้องเรียกค่าเช่าจากผู้เช่าโดยอาศัยใบเสร็จรับเงินดังกล่าวหาได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยและบริวารออกจากห้องพิพาทและให้ชำระค่าเช่าที่ค้างชำระจนถึงวันฟ้อง กับค่าเสียหายนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะออกจากห้องพิพาท
จำเลยให้การว่า เช่าห้องพิพาทอยู่อาศัยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน จำเลยไม่ได้ค้างชำระค่าเช่า และตัดฟ้องว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเช่า เพราะไม่มีสัญญาเช่าเป็นลายลักษณ์อักษร
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าสองคราวติด ๆ กัน โจทย์ฟ้องขับไล่ได้ โจทก์บอกกล่าว จำเลยขัดขืนถือว่าอยู่โดยละเมิด ต้องใช้ค่าเสียหายเท่าค่าเช่าส่วนค่าเช่าเมื่อจำเลยรับว่าเช่าห้องพิพาทและมีใบเสร็จรับเงินค่าเช่า โจทก์เรียกค่าเช่าได้พิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารให้ชำระค่าเช่าที่ค้างและค่าเสียหายเดือนละ ๔๐ บาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะออกจากห้องพิพาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยไม่ได้ผิดนัดไม่ชำระค่าเช่า โจทย์ฟ้องขับไล่ไม่ได้พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยไม่ชำระค่าเช่าตั้งแต่เดือนเมษายน ๒๕๐๓ จนถึงวันฟ้องและจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าสองคราวติด ๆ กันโจทย์ฟ้องขับไล่ได้
ส่วนค่าเช่าเห็นว่า การเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ใบเสร็์จรับเงินค่าเช่ามีแต่ลายมือชื่อของฝ่ายโจทก์ ไม่ใช่หลักฐานที่มีลายมือชื่อของฝ่ายจำเลย ในกรณีเรียกค่าเช่าจำเลยเป็นฝ่ายที่ต้องรับผิด เมื่อไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อจำเลย โจทย์ฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๕๓๘
พิพากษากลับให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากห้องพิพาท ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทก์เดือนละ ๔๐ บาทนับจากวันฟ้อง จนกว่าจำเลยและบริวารจะออกจากห้องพิพาท

Share