คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 869/2490

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่พนักงานสอบสวนเอาคำให้การเดิมชั้นกรรมการสอบสวนมาถามพะยาน เพื่อให้รับรองและสอบถามเพิ่มเติมแล้วจดบันทึกไว้ และอ่านให้พะยานฟังพร้อมกับให้ลงชื่อไว้ ดังนี้แม้จะมิได้อ่านคำให้การเดิมนั้นให้พะยานฟัง ก็ถือว่าเป็นการสอบสวนที่ถูกต้องแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดอาญา ผิดกฎหมายหลายบทหลายกะทง ต่างกรรมต่างวาระกัน ขอให้ลงโทษ
ทางพิจารณาได้ความว่า เรื่องนี้เดิมนายไสว เกิดนาถได้ยื่นคำร้องต่อผู้กำกับการตำรวจให้สอบสวนจำเลย เมื่อกรรมการสอบสวนจำเลยตามคำร้องของนายไสวแล้ว อธิบดีกรมตำรวจสั่งให้ดำเนินคดีแก่จำเลย ผู้กำกับการตำรวจึงให้ ร.ต.อ.สุนทร สารวัตรสอบสวนส่งอัยยการฟ้องร้องเป็นคดี ในชั้นตำรวจสอบสวนดำเนินคดี ร.ต.อ.เอกสุนทรได้สอบสวนโดยวิธีเอาคำให้การเดิมชั้นกรรมการสอบสวนมาถามพะยานว่า ถูกไหม พะยานว่าถูกต้องก็ถามต่อไปว่า จะให้การเพิ่มเติมไหม พะยานไม่ให้การเพิ่มเติมก็จดบันทึกไว้ แล้วอ่านให้พะยานฟัง และพะยานลงชื่อไว้ แต่หาได้อ่านคำให้การเดิมนั้นให้พะยานฟังไม่
ศาลชั้นต้นเห็นว่า การสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็เท่ากับไม่มีการสอบสวน และอัยยการไม่มีอำนาจฟ้องตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา ๑๒๐ จึงพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า วิธีการสอบสวนถูกต้องครบถ้วนตามกฎหมายแล้ว จึงพิพากษาคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลขชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่
ศาลฎีกาเห็นว่า การสอบสวนเจ้าพนักงานสอบสวนในคดีนี้นับว่าได้มีการสอบสวนตาม ป.ม.วิ.อาญาแล้ว อัยยการมีอำนาจนำคดีมาฟ้องได้ตาม ป.ม.วิ.อาญา มาตรา ๑๒๐ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share