แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
อายุความในการที่ผู้ทรงเช็คฟ้องผู้สั่งจ่ายเช็คนั้น มีกำหนดเวลาภายใน 1 ปีนับแต่วันที่เช็คถึงกำหนด มิใช่ 6 เดือน
หนังสือสัญญาขายที่ดินมีข้อความว่า จำเลยชำระเงินค่าที่ดินรายนี้เสร็จแล้ว แต่โจทก์นำพยานบุคคลเข้าสืบว่าโจทก์ไม่ได้รับเงิน ดังนี้ เมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยชำระค่าที่ดินด้วยเช็คแต่ขึ้นเงินไม่ได้ จำเลยต่อสู้ว่าได้ชำระค่าที่ดินด้วยเงินสด มิใช่ชำระด้วยเช็ค โจทก์จึงนำสืบได้ตามฟ้องว่าตามสัญญาดังกล่าว เพราะจำเลยได้ออกเช็ครายพิพาทให้โจทก์ยึดถือไว้ ต่อมาจำเลยผิดนัดผิดสัญญาการชำระเงินตามเช็ค โจทก์ขอให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ตามเช็ค จึงไม่เป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๐๕ จำเลยซื้อที่ดินของโจทก์ ๒ แปลงพร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท โอนกรรมสิทธิ์ให้จำเลยไปแล้ว โดยจำเลยออกเช็คธนาคารนครหลวงไทยให้โจทก์ยึดถือ จำเลยให้สัญญาว่าเมื่อเช็คถึงกำหนดชำระเงิน จำเลยจะนำเงินมาแลกเช็คคืนไป เมื่อเช็คถึงกำหนดจำเลยขอผัดเรื่อยมา โดยให้คำมั่นว่ายินดีเสียดอกเบี้ยให้โจทก์ตามที่เรียกร้อง ขอศาลพิพากษาให้จำเลยชำระต้นเงินและดอกเบี้ย รวม ๒๑,๑๒๕ บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้อง
จำเลยให้การว่า ได้นำเงินสด ๒๐,๐๐๐ บาทไปชำระโจทก์ จำเลยขอเช็คคืนแต่โจทก์ว่ายังหาไม่พบ จำเลยได้แจ้งอายัดการจ่ายเงินตามเช็ค อายุความการใช้เช็คหมดสิ้นลง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินสด ๒๐,๐๐๐ บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๖
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีเชื่อไม่ได้ว่าจำเลยได้ชำระเงินสด ๒๐,๐๐๐ บาทแก่โจทก์ ข้อที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ปล่อยปละละเลยมิได้จัดการขึ้นเงินภายในอายุความของการใช้เช็คภายในระยะ ๖ เดือนนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า อายุความในการที่ผู้ทรงเช็คฟ้องผู้สั่งจ่ายเช็คนั้น มีกำหนดเวลาภายใน ๑ ปีนับแต่วันที่เช็คถึงกำหนดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๐๐๒ หาใช่กำหนด ๖ เดือนไม่ ข้อที่จำเลยฎีกาว่า ตามหนังสือสัญญาขายที่ดินเอกสาร ล.๑ ปรากฏข้อความว่าจำเลยชำระเงินค่าที่ดินรายนี้เสร็จแล้ว แต่โจทก์นำพยานบุคคลเข้าสืบว่าโจทก์ไม่ได้รับเงิน จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๙๔ เพราะเป็นการนำพยานบุคคลเข้าหักล้าง แก้ไข เปลี่ยนแปลงเอกสารนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยชำระค่าที่ดินด้วยเช็ค แต่ขึ้นเงินไม่ได้ จำเลยต่อสู้ว่าได้ชำระค่าที่ดินด้วยเงินสด มิใช่ชำระด้วยเช็ค โจทก์จึงนำสืบได้ตามฟ้องว่า ที่ปรากฏตามเอกสารหมาย ล.๑ นั้น เพราะจำเลยได้ออกเช็ครายพิพาทให้โจทก์ยึดถือไว้ ต่อมาจำเลยผิดนัดผิดสัญญาการชำระเงินตามเช็ค โจทก์ขอให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ตามเช็ค ดังนี้ จึงไม่เป็นการขัดต่อบทกฎหมายที่จำเลยกล่าวอ้าง.
พิพากษายืน.