คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 865/2512

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ตายโกรธจำเลยเรื่องเบื่อหมูของผู้ตาย ได้มาต่อว่าจำเลยและจะให้ใช้ราคา จำเลยไม่ยอมใช้ ผู้ตายจึงท้าให้จำเลยลงจากเรือน จำเลยไม่ลง ผู้ตายจึงก้าวขึ้นบันไดไปสองขั้น และฟันจำเลยแต่ไม่ถูก ผู้ตายจึงก้าวขึ้นบันไดขั้นที่สามต่อไปอีกทั้ง ๆ ที่จำเลยได้ร้องห้ามแล้วว่า ถ้าขึ้นมาจะแทง แต่ผู้ตายก็ไม่เชื่อฟัง จำเลยจึงใช้หลาวไม้ไผ่แทงผู้ตาย 1 ที ถูกหน้าท้อง และผู้ตายถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลที่ถูกแทง ดังนี้ ย่อมเป็นการกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนให้พ้นอันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง การกระทำของจำเลยพอสมควรแก่เหตุ เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ใช้ไม้ไผ่ปลายแหลมแทงนายวิเชียร ทองนิ่ม ตายโดยเจตนา ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๓๓ และขอให้ริบไม้ของกลาง
จำเลยให้การว่าได้ทำไปเพื่อป้องกันตัวมิให้ผู้ตายทำร้ายจำเลย
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ข้อต่อสู้ของจำเลยไม่อาจจะฟังได้ว่าเป็นการป้องกันตัว จำเลยมีเจตนาฆ่านายวิเชียร ทองนิ่ม ตายตามฟ้อง พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ให้จำคุก ๒๐ ปี ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีมีสาเหตุมาจากหมูของผู้ตายไปกินพืชไร่ของจำเลย จำเลยเบื่อหมูผู้ตาย ผู้ตายจึงโกรธมาต่อว่าถึงเรือนจำเลย และจะให้ใช้ราคา แต่จำเลยไม่ยอมใช้ ขณะนั้นจำเลยอยู่บนเรือนตรงประตูหน้าบันได ส่วนผู้ตายยืนที่พื้นดิน พื้นเรือนสูงจากดิน ๑.๗๕ เมตร บันไดมี ๕ ขั้น เมื่อผู้ตายก้าวขึ้นบันไดขั้นที่สองและฟันจำเลยไม่ถูกแล้ว ผู้ตายยังก้าวขึ้นบันไดขั้นที่สามต่อไปอีกทั้ง ๆ ที่จำเลยได้ร้องห้ามแล้วว่า ถ้าขึ้นมาจะแทง แต่ผู้ตายก็มิเชื่อฟัง จำเลยจึงใช้หลาวไม้ไผ่แทงผู้ตาย ๑ ที ถูกหน้าท้อง และผู้ตายถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลที่ถูกแทง ดังนี้ ย่อมเป็นการกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนให้พ้นอันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง การกระทำของจำเลยพอสมควรแก่เหตุ เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๖๘ พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์.

Share